Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทิ์ทั้งการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน เรื่องหลักธรมมทางพระพุทธศาสนา ที่ใช้วิธีสอนแบบพุทธวิธี และวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ 2) ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของวิธีสอนแบบพุทธวิธีและวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ 3) เปรียบเทียบทักษะการคิดแบบโยนิโสมนสิการก่อนเรียนและหลังเรียนที่ใช้วิธีสอนแบบพุทธวิธีและวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้วิธีสอนแบบพุทธวิธี และวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/5 โรงเรียนนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2552 จำนวน 45 คน โดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เป็นห้องที่ผู้วิจัยเป็นครูประจำวิชา เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ซึ่งประกอบด้วยวิธีการสอนแบบอริยสัจ 4 เบญจขันธ์ ไตรสิกขา โดยสร้างศรัทธาแลโยนิโสมนสิการ ธรรมสากัจฉา พหูสูต ปุจฉา วิสัชนา เผชิญสถานการณ์ จำนวน 8 แผนๆ ละ 1-2 คาบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแบบวัดทักษะการคิดแบบโยนิโสมนสิการ และแบบวัดวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้วิธีการสอนแบบพุทธวิธีและวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าทดสอบค่าที่ (t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการสอนแบบพุทธวิธีและวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของวิธีการสอนแบบพุทธวิธีและวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ มีค่าเท่ากับ 0.83 3. ทักษะการคิดแบบโยนิโสมนสิการของนักเรียนที่ได้รับกาสอนแบบพุทธวิธีหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้วิธีการสอนแบบพุทธวิธีและวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ อยู่ในระดับมาก ( X= 3.85)