Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานตามความคิดเห็นของพนักงานราชการโรงเรียนมัธยมศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จำแนกตาม เพส สถานภาพการสมรส อายุ และขนาดของโรงเรียน โดยมีขอบเขตของเนื้อหา 10 ด้าน กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 136 คน ได้จากการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี่และมอร์แกน แล้วใช้วิธีแบบหลายข้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 20246 -8.205 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .9831 สถิติที่ใช้ในการวิจัยข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมุติฐานในการทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว ในการเปรียบเทียบรายคู่ในแต่ละด้าน ใช้วิธีการของเชฟเฟ โดยกำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. พนักงานราชการโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 มีความคิดเห็นโดยรวมและรายด้านเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงานอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านสภาพการทำงาน (เงินเดือนและประโยชน์เกื้อกูล) ด้านนโยบายและการบริหาร ด้านความสำเร็จของงาน ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ด้านความรับผิดชอบ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล / สภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้านลักษณะของงาน ด้านสัมพันธภาพกับผู้ร่วมงาน ด้านการยอมรับนับถือ และด้านสัมพันธภาพกับผู้บังคับบัญชา 2. พนักงานราชการโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ที่มีเพศ สภาพการสมรส และอายุ ต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อแจงจูงใจในการปฏิบัติงานทั้งโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 3. พนักงานราชการโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านการยอมรับนับถือ ด้านลักษณะของงานและด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล / สภาพแวดล้อมในการทำงาน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อแรงจูงใจในการปฏิบัติงาน ที่มีจำนวนมากที่สุดในแต่ละด้านมีดังนี้ ผู้บริหารส่งเสริม และให้กำลังใจในการปฏิบัติงานดี และให้ความช่วยเหลือในการปฏิบัติงานที่มีปัญหาจนสามารถสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ผู้ร่วมงานให้การยอมรับนับถือในการทำงานร่วมกัน ทำให้ทำงานด้วยความสุข งานที่ได้รับโดยส่วนใหญ่จะตรงกับความรู้ความสามารถ ถางานใดไม่มีความถนัดก็จะส่งเสริมให้ไปศึกษาดูงานและเรียนรู้จากการอบรมเชิงปฏิบัติการ มีความรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถและเสียสละเวลาเพื่อให้งานที่ได้รับมอบหมายออกมาดีที่สุด ผู้บริหารสนับสนุนในการส่งเสริมให้ความรู้แก่บุคลากรเพื่อเพิ่มปะสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และเปิดให้บุคลากรทุกคนร่วมกันกำหนดนโยบายในการบริหาร เพื่อให้เข้าใจตรงกัน และปฏิบัติงานด้วยความเต็มใจและมีความสุข ผู้บังคับบัญชาปกครองด้วยความยุติธรรมและมีความเป็นกันเองก่อให้เกิดขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน มีการอยู่แบบพี่แบบน้องส่งเสริมและสนับสนุนในการปฏิบัติงานร่วมกันเงินเดือนต้องเหมาะสมกับการปฏิบัติงานและค่าครองชีพในปัจจุบัน สภาพแวดล้อมที่ดี ส่งผลให้การทำงานมีประสิทธิภาพ