Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1)เพื่อศึกษาสภาพการบริหารงานบุคคลตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 2)เพื่อเปรียบเทียบสภาพการบริหารงานบุคคลตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานและขนาดโรงเรียน และ 3)เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต2 จำนวน 162 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครซี่และมอร์แกนแล้วใช้การสุ่มแบบแบ่งชั้นและการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น 0.8831 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าสถิติที และค่าสถิติเอฟ ใช้การทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยวิธีของ เชฟเฟ่ ผลการวิจัยพบว่า 1.สภาพการบริหารงานบุคคลในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการสรรหาและการบรรจุแต่งตั้ง ด้านวินัยและการรักษาวินัยและอยู่ในระดับมากแต่ด้านการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง การเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการ ด้านการออกจากราชการอยู่ในระดับปานกลาง 2.สภาพการบริหารงานบุคคลในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามประสบการณ์ พบว่าโดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง ด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติราชการวินัยและการรักษาวินัย แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ด้านการออกจากราชการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการสรรหาและการบรรจุแต่งตั้งไม่แตกต่างกัน 3.สภาพการบริหารงานบุคคลในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามขนาดโรงเรียนโดยรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหน่ง ด้านการเสริมสร้างประสิทธิภาในการปฏิบัติราชการวินัยและการรักษาวินัย แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านการสรรหาและการบรรจุแต่งตั้ง และการออกจากราชการไม่แตกต่างกัน 4.แนวทางการพัฒนาการบริหารงานบุคคลในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 มีดังนี้ ผู้บริหารโรงเรียนควรวิเคราะห์ภาระงานการบริหารบุคคลให้เหมาะสมกับความต้องการของกำลังคน สนับสนุนบุคลากรในโรงเรียนเข้ารับการอบรม สัมมนาศึกษาดูงานให้เพิ่มมากขึ้นและอย่างต่อเนื่อง ให้ครูมีส่วนร่วมในการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำคู่มือ คำชี้แจงแก่ข้าราชการที่ออกจากราชการแล้ว เพื่อให้ทราบถึงระเบียบการรับบำเหน็จ บำนาญ และเผยแพร่เกียรติประวัติอาวุโส และข้าราชการบำนาญ
