Abstract:
เป็นที่ทราบกันดีว่าในวัจนปฏิบัติศาสตร์นั้น ความหมายชี้บ่งเป็นนัยในการสนทนาเป็นการศึกษาเพื่ออธิบายความเข้าใจถึงความแท้จริงที่ถูกสื่อสารเพื่อสื่อความหมายในการสนทนานั้นมีมากกว่าสิ่งที่กล่าวเป็นคำพูด วัตถุประสงค์ประการแรกของการศึกษาในครั้งนี้ คือศึกษาประเภทของความหมายชี้บ่งเป็นนัยบทสนทนา: ในภาพยนตร์เรื่องเบรคกิ้งดอร์น (Breaking Dawn) ประการที่สอง คือ เพื่อศึกษาผลของการกล่าวความหมายชี้บ่งเป็นนัยในสองกรณี คือ กรณีที่ผู้ฟังเข้าใจความชี้บ่งเป็นนัย และกรณีที่ผู้ฟังไม่เข้าใจความชี้บ่งเป็นนัยที่ปรากฎในภาพยนตร์เรื่องเบรคกิ้งดอร์น สถิติที่ใช้ในการวิเคระห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ความถี่และค่าร้อยละ ส่วนการวิเคระห์ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้วิธีการวิเคระห์เชิงเนื้อหาในการวิจัยเชิงพรรณนา การศึกษาในครั้งนี้ อาศัยหลักการเรื่องความหมายชี้บ่งเป็นนัยของไกรซ์ (Grice,1975) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านเรื่องคติความร่วมมือในการสื่อสาร (Conversational Maxims) ผลการวิจัยพบว่าความหมายชี้บ่งเป็นนัยที่พบในบทสนทนาในภาพยนตร์เรื่องเบรคกิ้งดอร์น มีจำนวนทั้งสิ้น 60 ข้อความ ด้านการศึกษาประเภทของความหมายชี้บ่งเป็นนัยที่พบในบทสนทนา พบว่าแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่หนึ่ง ความหมายชี้บ่งเป็นนัยในการบทสนทนาแบบทั่วไป และประเภทที่สองความหมายชี้บ่งเป็นนัยในการบทสนทนาแบบเฉพาะเจาะจง โดยประเภทที่สองนำมาใช้ในการสนทนามากกว่า คือ พบถึง 52 ข้อความ (f=52, 86.67%) ในขณะที่ความหมายชี้บ่งเป็นนัยในการบทสนทนาแบบทั่วไป พบว่ามีการนำมาใช้ในการสนทนา 8 ข้อความ (f=8, 13.33%) การใช้ความชี้บ่งเป็นนัยในการสนทนาที่พบเกือบทั้งหมดมีผลทำให้ผู้ฟังเข้าใจความหมายแฝงได้ (f=59, 98.33%) มีความหมายชี้บ่งเป็นนัยในบทสนทนาเพียง 1 ข้อความ ที่มีผลทำให้ผู้ฟังไม่เข้าใจความหมายแฝง (f=1, 1.67%) ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า การใช้หลักคติบทคุณภาพ หรือหลักคุณภาพนั้นสามารถพบได้มากที่สุด กรณีการใช้การเสียดสีและอุปลักษณ์ในการสร้างความหมายชี้บ่งเป็นนัยในการสนทนาพบมากที่สุดในงานวิจัยนี้