ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยสิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยใช้สิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้า สำหรับนักเรียนมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75 / 75 / 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤาเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รุปแบบการสอนโดยใช้สิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิภาพผลของการเรียนแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยใช้สิ่งที่มโนมติล่วงหน้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนดดยใช้สิ่งมโนมติล่วงหน้า สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3/2 โรงเรียนสาหร่ายวิทยาคม อำเภอชุมพวง จังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษ รหัสวิชา อ23101 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกา 2557 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนซึ่งมีนักเรียนคละความสามารถเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือในการใช้วิจัยประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้ในรูปแบบการสอนโดยใช้มโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 5 เรื่อง 2) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่องแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยสิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 จำนวน 6 แผ่น 3) แบบทดสแบบผลสัมฤทธ์ทางการเรียนโดยใช้สิ่งช่วยจัดมโนมติล่วงหน้า สำหรับนักศึกาชั้นปีที่ 3 เป้นแบบทดสอบอิงเกณฑ์ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อมีความยากง่าย ระหว่าง 0.32 – 0.67 ค่าอำนาจ จำแนกระหว่าง 0.23 – 0.72 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 และ 4) แบบทดสอบความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักะภาษาอังกฟษเพื่อความเข้าใจที่ ใช้รูปแบบการสอนโดยใช้สิ่งที่ช่วยมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้การวิเคราะห์ข้อมุลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน E_1/ E_2 และ E.I. การทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t – test แบบ Dependen Samples ผลการวิจัยพบว่า ประสิทธิภาพของแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยสิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.61 / 83.22 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 75 / 75 ที่ตั้งไว้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของการเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยสิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 หลีงเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ดัชนีประสิทธิผลการเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยสิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.720909 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.09 ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ที่ใช้รูปแบบการสอนโดยสิ่งที่ช่วยจัดมโนมติล่วงหน้าสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมาก