dc.contributor.author |
เพียงตะวัน, ฤทธิรณ |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-02T07:05:59Z |
|
dc.date.available |
2017-09-02T07:05:59Z |
|
dc.date.issued |
2558 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/882 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ตามความเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการ กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้บริหารและครูวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 จำนวน 288 คน ซึ่งได้มาโดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซี และมอร์แกน แล้วทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่างตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะคือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบปลายปิด มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การทดสอบค่าเอฟ และการทดสอบเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา รองลงมาคือ ด้านการวัดผล ประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการพัฒนาแหล่งการเรียนรู้ 2.ผู้บริหารและครูวิชาการมีความคิดเห็นต่อสภาพการบริหารงานวิชาการ โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3.ผู้บริหารและครูวิชาการที่ปฏิบัติงานในโรงเรียนที่มีขนาดต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการวัดผลประเมินผลและเทียบโอนผลการเรียนไม่แตกต่างกัน ส่วนด้านอื่นๆ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4.ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียน ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ ควรพัฒนาหลักสูตรให้มีความเหมาะสมกับสภาพบริบทของชุมชนโดยประสานความร่วมมือกับชุมชนและภูมิปัญญาท้องถิ่น รองลงมาคือ ควรทำความเข้าใจระเบียบการวัดผลและประเมินผลที่ถูกต้องและประเมินตามสภาพจริง และควรพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและนอกสถานศึกษาอย่างต่อเนื่อง มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง และใช้แหล่งเรียนรู้ร่วมกันระหว่างโรงเรียนกับชุมชน |
th_TH |
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์. ศูนย์วิทยบริการ |
en_US |
dc.title |
สภาพการบริหารงานวิชาการในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 |
en_US |
dc.title.alternative |
Conditions of academic administration in schools under surin primary educational service area office II |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |