Abstract:
การศึกษาแนวทางยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น : กรณีศึกษาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของอำเภอ นาโพธิ์ จังหวัดบุรีรัมย์ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 3 ประการ ได้แก่
1. เพื่อศึกษาและวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการพัฒนายกระดับภูมิปัญญา ท้องถิ่น
2. เพื่อเสนอแนวทางการนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในกระบวนการพัฒนา ยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของอำเภอนาโพธิ์ แต่ไม่ทำลายเอกลักษณ์ของ ภูมิปัญญา
3. เพื่อวิเคราะห์ความเหมาะสมในการพัฒนา และสืบสานภูมิปัญญาผลิตภัณฑ์ผ้าไหมของอำเภอนาโพธิ์ โดยกระบวนการบันทึกลงสื่อ การตรวจสอบและพิสูจน์ การแพร่กระจาย และการพัฒนาการยกระดับ
ในการวิจัยพิจารณาเลือกกลุ่มตัวอย่างที่เป็นบุคคล ประกอบด้วย ผู้ผลิต ผู้นำชุมชน คณะกรรมการบริหารกลุ่ม และผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ภายในชุมชน แล้วทำการรวบรวมข้อมูล โดยการสนทนากลุ่ม และการสัมภาษณ์แบบเจาะลึก ที่มีการใช้แบบสัมภาษณ์ ซึ่งมีการเตรียม คำถามไว้ล่วงหน้าชนิดปลายเปิด แล้วบันทึกลงเทปและทำการถอดเทปต่อไป ส่วนกลุ่มตัวอย่าง ที่เป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไหมมัดหมี่ รวบรวมข้อมูล ลวดลาย โดยการบันทึกภาพจากผ้าชิ้นตัวอย่าง ที่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของ โดยพิจารณาศึกษาเฉพาะลวดลายดั้งเดิม จำนวน 70 ลาย แล้วนำมาบันทึกลงสื่อ เพื่อการแพร่กระจายในโอกาสต่อไป
ข้อมูลที่ได้จากการสนทนากลุ่มและการสัมภาษณ์ นำมาวิเคราะห์เนื้อหา เพื่อสนองตอบวัตถุประสงค์ของการวิจัย ได้แก่ ปัจจัยที่มีอิทธิพลสำคัญต่อการพัฒนายกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ประกอบด้วยปัจจัยด้านชุมชน ปัจจัยด้านผู้ผลิต ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ ปัจจัยด้านการตลาด และปัจจัยภายนอก โดยทั้งห้าปัจจัยแบ่งเป็นปัจจัยทางด้านบวกและปัจจัยทางด้านลบ ในการพัฒนา ยกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่นต้องอาศัยหลักการส่งเสริม สนับสนุนปัจจัยทางด้านบวก และแก้ไขปัจจัยทางด้านลบ ทั้งนี้ หากนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีไปใช้ในกระบวนการพัฒนายกระดับภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งมีแนวทางดังนี้คือ การส่งเสริมกระบวนการคิดทางด้านวิทยาศาสตร์โดยการคำนวณ ชั่ง ตวง วัด จดบันทึกเข้ามามีส่วนร่วมในการผลิต การส่งเสริมสนับสนุนการใช้สารเคมีและสีย้อมทั้งธรรมชาติและสีแอสิค ด้วยกระบวนการที่ถูกต้อง การส่งเสริมให้มีการบันทึก ลวดลายมัดหมี่ลงสื่อ การพัฒนาระบบการจัดการที่สามารถใช้เป็นข้อมูลและตรวจสอบได้ การพัฒนาประดิษฐ์เครื่องทุ่นแรงเครื่องจักรกลในต้นทุนที่ประหยัด และการส่งเสริมการ ประชาสัมพันธ์และการตลาดด้วยการใช้เครื่องหมายการค้าของตนเอง ทั้งนี้กระบวนการพัฒนา และสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยการบันทึกลงสื่อมีความจำเป็นเร่งด่วน และมีความเหมาะสม อย่างมากในแง่ความเป็นไปได้ เนื่องจากผู้ผลิตในชุมชนให้ความร่วมมือและเห็นประโยชน์ ของการจดบันทึก