Abstract:
บุรีรัมย์เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ประชากรที่อาศัยในชุมชนบ้านหนองม่วง และบ้านโคกปราสาทพัฒนา อำเภอประโคนชัย ส่วนใหญ่เป็นชาวไทยเขมรที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นอัตลักษณ์ไว้อย่างเหนียวแน่น รวมถึงการผลิตผ้าทอมือด้วยภูมิปัญญาที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ แต่ในปัจจุบัน กลุ่มทอผ้านิยมผลิตผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายแบบไทยลาวเพื่อสนองความต้องการของตลาด และนโยบายส่งเสริมการใช้ผ้าเอกลักษณ์ประจำจังหวัด หากทิ้งไว้นานวันอาจทำให้เกิดการสูญหายของภูมิปัญญาการผลิตผ้าไหมมัดหมี่แบบไทยเขมร โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มผู้สืบทอด ภูมิปัญญาการผลิตภายในชุมชน และเพื่อพัฒนาผ้ามัดหมี่แบบไทยเขมรดั้งเดิมสู่สินค้าทางวัฒนธรรมเชิงอนุรักษ์ โดยดำเนินการวิจัยถอดองค์ความรู้ ลวดลาย สีสันของผ้ามัดหมี่ดั้งเดิม บันทึกลายผ้า ปฏิบัติการฟื้นฟูการผลิต ติดตามการผลิตในพื้นที่ จัดเวทีสรุปบทเรียนโครงการ และประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์เผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ผลการวิจัยระบุว่า ลวดลายมัดหมี่แบบไทยเขมรดั้งเดิมมีจำนวน 21 ลาย ชื่อลายมีไว้เป็นเสมือนรหัสใช้ในการสื่อสาร จดจำและถ่ายทอดการผลิตจากผู้ถ่ายทอดโดยไม่มีการบอกเล่าที่มาหรือความหมายของลายนั้นแก่ผู้รับการถ่ายทอด ส่วนการให้ลวดลายทำหน้าที่สื่อความหมายจะเริ่มคิดหาภายหลังตามหลักการสร้างเรื่องราวผลิตภัณฑ์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภค โครงสร้างของผ้ามัดหมี่แบ่งเป็นหัวซิ่น ตัวซิ่น และตีนซิ่น วางลายมัดหมี่ใช้การซ้ำของลายเดียวกันหรือหลายลายจนเต็มผืนผ้าแทบจะไม่มีที่ว่างแสดงถึงความวิริยะอุตสาหะของช่างมัดหมี่สะท้อนถึงคุณสมบัติของผู้หญิงที่ควรแก่การออกเรือน ลายส่วนใหญ่เกิดจากการค้นหมี่แบบหมี่รวด (ตวงลด) ทำให้การก่อรูปของลายมีทิศทางแบบสะท้อนกลับในแต่ละซ้ำ โครงการนี้ทำการบันทึกลวดลายมัดหมี่ จำนวน 24 ลาย และฟื้นฟูการผลิตผ้าไหมมัดหมี่ลวดลายแบบไทยเขมรดั้งเดิม จำนวน 11 ผืน และมีข้อเสนอแนะให้ชุมชนควรเร่งพัฒนามาตรฐานและคุณภาพของผ้า เพื่อยกระดับจากผลิตผลที่ใช้ในครัวเรือนไปสู่สินค้าทางวัฒนธรรม ทำให้เพิ่มความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนใน รวมถึงการสร้างการยอมรับและจดจำของคนนอก