Abstract:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดประสงค์ 1)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อการให้บริการเบี้ยยังชีพขององค์การบริหารส่วนตําบล 2)เพื่อศึกษาเปรียบเทียบความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อการให้บริการเบี้ยยังชีพขององค์การบริหารส่วนตําบล 3) เป็นข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเพื่อการพัฒนาและปรับปรุงในการให้บริการเบี้ยยังชีพขององค์การบริหารส่วนตําบล ซึ่งศึกษาในพื้นที่ตําบลสําโรง อําเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ กลุ่มตัวอย่างได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างจํานวน 268 คนโดยใช้กําหนดการตามสูตรทาโร่ ยามาเน่ (Taro Yamane) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถามโดยแบบสอบถามที่ประกอบด้วย 3 ลักษณะ คือ คําถามแบบตรวจสอบรายการแบบมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับและแบบปลายเปิดมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.888 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่มโดยการทดสอบค่าที (
t-test) และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (F-test)
ผลการวิจัยพบว่าการศึกษาความพึงพอใจของผู้สูงอายุที่มีต่อการให้บริการเบี้ยยังชีพของผู้สูงอายุในในองค์การบริหารส่วนตําบลสําโรง ภาพรวมอยู่ในระดับมากทุกด้านโดยเรียงจากด้านที่มีค่ามากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการความพึงพอใจในระบบหรือขั้นตอนการเบิกจ่ายเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ด้านความพึงพอใจการให้บริการของเจ้าหน้าที่และด้านสิ่งอํานวยความสะดวกแก่ผู้สูงอายุในการเข้ารับบริการ ผลการเปรียบเทียบการศึกษาความพึงพอใจของผู้สู
งอายุที่มีต่อการให้บริการเบี้ยยังชีพขององค์การบริหารส่วนตําบลสําโรง จําแนกตามคุณลักษณะของประชากรคือ เพศ อายุ อาชีพ รายได้และสถานภาพการอยู่อาศัยโดยภาพรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน ส่วนข้อเสนอแนะจากการสัมภาษณ์ผู้สูงอายุพบว่าองค์การบริหารส่วนตําบลสําโรง อําเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์
ควรให้ความช่วยเหลือในด้านการรับส่ง การไปเบิกจ่ายเงินสําหรับผู้สูงอายุที่ไม่มีรถเพื่อเข้าไปเบิก-ถอน เงินในตัวเมือง หรือต้องการให้หมู่บ้านของตนสามารถมีตู้ATM เพื่อเบิกจ่ายเงินได้สะดวก ควรช่วยเหลือในด้านการติดต่อสื่อสาร กระจายข่าวให้กับผู้สูงอายุอยู่เสมอ หรือการอํานวยความสะดวกให้กับผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารนั้นได้
https://so03.tci-thaijo.org/index.php/IARJ/article/view/256238/170979