ความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมภาวะผู้นำกับความพึงพอใจ ในการปฏิบัติงานของครู ในโรงเรียนสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษากับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูใน 6 ด้าน คือ ด้านสภาพการทำงาน ด้านผู้บังคับบัญชาชั้นต้นด้านความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนร่วมงาน ด้านการยอมรับนับถือ ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่ง และด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ครูผู้สอน ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ปีการศึกษา 2549 จำนวน 2,979 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้จากการสุ่มจากประชากรโดยการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ได้กลุ่มตัวอย่างเป็นครูผู้สอน จำนวน 692 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับพฤติกรรมภาวะผู้นำแบบมุ่งงาน และมุ่งสัมพันธ์ และแบบสอบถามประเมินความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครู สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัย พบว่า 1. ผู้บริหารสถานศึกษามีพฤติกรรมภาวะผู้นำโดยรวม อยู่ในระดับมาก 2. ผู้บริหารสถานศึกษามีพฤติกรรมภาวะผู้นำทั้งแบบมุ่งงานและแบบมุ่งสัมพันธ์ อยู่ในระดับมาก พฤติกรรมภาวะผู้นำแบบมุ่งงานมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าแบบมุ่งสัมพันธ์ 3. ครูมีความพึงพอใจในการปฏิบัติงาน โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ( = 3.78) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่ง มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( = 4.03) รองลงมา คือด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน ( = 3.94) ด้านผู้บังคับบัญชาชั้นต้น ( = 3.90) ด้านการยอมรับนับถือ ( = 3.75) ด้านเงินเดือนและสวัสดิการ ( =3.61) และด้านสภาพ การทำงาน ( = 3.45) ตามลำดับ 4. พฤติกรรมภาวะผู้นำ มีความสัมพันธ์ทางบวก ( = .74) กับความพึงพอใจใน การปฏิบัติงานของครูโดยรวม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 5. พฤติกรรมภาวะผู้นำแบบมุ่งงาน มีความสัมพันธ์กันในทางบวก ( = .66) กับ ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 6. พฤติกรรมภาวะผู้นำแบบมุ่งสัมพันธ์ มีความสัมพันธ์กันในทางบวก ( = .72) กับ ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01