Abstract:
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษารูปแบบการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายหัตถกรรมพื้นบ้านและบริการ 2) พัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายหัตถกรรมพื้นบ้านและบริการ และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้ที่มีต่อช่องทางการจัดจำหน่ายหัตถกรรมพื้นบ้านและบริการหมู่บ้านท่องเที่ยวไหมสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ กลุ่มตัวอย่างคือ นักท่องเที่ยว กรรมการหมู่บ้าน และสมาชิกกลุ่มหัตถกรรมบ้านสนวนนอก อำเภอห้วยราช จังหวัดบุรีรัมย์ จำนวน 73 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามรูปแบบการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย แบบประเมินความสามารถการใช้งานระบบ และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ใช้ สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) รูปแบบช่องทางการจัดจำหน่ายหัตถกรรมพื้นบ้านและบริการที่เหมาะสมซึ่งชุมชนมีความต้องการคือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ประเภทธุรกิจกับลูกค้า 2) ผลการพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่าย คือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานในรูปแบบเว็บแอปพลิเคชันบนสถาปัตยกรรมไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์ซึ่งมีการทำงานหลัก 2 ส่วน คือ 1) ส่วนบริการลูกค้า ประกอบด้วย หน้าฐานการเรียนรู้หมู่บ้านท่องเที่ยวไหม การจองโฮมสเตย์และกิจกรรมการเยี่ยมชมหมู่บ้าน แคตตาล็อกสินค้า ตะกร้าซื้อผลิตภัณฑ์ และการลงทะเบียนผู้ใช้ 2) ส่วนบริการผู้ดูแลระบบ ประกอบด้วย ส่วนจัดการข้อมูลระบบ คือ สินค้าและบริการ ข่าวประชาสัมพันธ์ กิจกรรมการชมหมู่บ้าน การสั่งซื้อ และการจองบริการ จากการประเมินความสามารถในการใช้งานได้ของระบบโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และ 3) ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้ใช้ที่มีต่อช่องทางการจัดจำหน่ายหัตถกรรมพื้นบ้านและบริการโดยรวมมีความ
พึงพอใจอยู่ในระดับมาก