สภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3

ดาวิด, วาปีทะ

dc.contributor.author	ดาวิด, วาปีทะ
dc.date.accessioned	2017-09-02T05:29:50Z
dc.date.available	2017-09-02T05:29:50Z
dc.date.issued	2556
dc.identifier.uri	http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/702
dc.description.abstract	การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศของโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามสถานภาพ ตำแหน่ง ประเภทของโรงเรียนและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง รวมจำนวนทั้งหมด 184 คน จากผู้บริหาร 48 คน และครู จำนวน 136 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถาม มีจำนวน 3 ตอน คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า และแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .970 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบทดสอบ ค่าสมมุติฐานโดย t-test และ F-test เมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ จึงทำการทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 ทั้งโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการบริการวิชาการ และด้านการวางแผน รองลงมาคือ ด้านการเรียนการสอน ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การบริหารจัดการ 20 เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามสภาพตำแหน่ง มีความคิดเห็นโดยรวมไม่แตกต่างกัน แต่เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านบริหารทั่วไป และด้านบริหารวิชาการแตกต่างกันอย่ามีนัยความสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน 3. เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามประเภทโรงเรียน โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านบริการวิชาการ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆไม่แตกต่างกัน 4.เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูเกี่ยวกับสภาพเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามประสบการณ์ โดยรวมรายด้านไม่แตกต่างกัน 5. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและเกี่ยวกับสภาพเทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3 ที่มีร้อยละสูงสุดด้านบริหารทั่วไป คือ ควรมีการจัดเก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญเช่น ข้อมูลบุคลากร ข้อมูลงบประมาณ ข้อมูลครุภัณฑ์ เป็นต้น ด้านการเรียนการสอน คือ ควรมีระบบและกลไกในการว่างแผนเพื่อการสร้างคอมพิวเตอร์ช่วยสอน ด้านบริการวิชาการ คือ ควรมีการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการจัดเก็บข้อมูลตำราเรียนเพื่อสะดวกต่อการค้นหา ด้านการวางแผน คือ ควรมีการตรวจสอบ ติดตาม ประเมินผล และรายงานผลการใช้เงินและผลการดำเนินการ ด้านการบริหารการจัดการ คือ ควรมีการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลสารสนเทศ	en_US
dc.language.iso	th_TH	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์.	en_US
dc.title	สภาพการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในโรงเรียนเอกชน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน จังหวัดบุรีรัมย์ เขต 3	en_US
dc.title.alternative	The States of Information Technology Utilization of Private Schools Under the Office of Buriram Private Educational Promotion Committee Area 3	en_US
dc.type	Thesis	en_US