ผลการใช้เเบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้เเบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2)เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3)ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนไพศาลพิทยาคม อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1 ห้อง จำนวน 38 คน ได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้มี 4 ชนิด 1) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 9 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียน ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 20 ข้อ ผลการวิจัยพบว่า 1. แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 90.76/92.37 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงกว่าการเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.6796 คิดเป็นร้อยละ 67.96 4.ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีผลต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก (x ̅ = 4.23) เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

The objectives of this research were: 1.) to make the skill practice exercises for developing critical reading by using the CIRC Cooperative Learning Activities Technique for Matthayomsuksa 1 students to meet the criteria set at 80/80; 2.) to compare the learning achievement of students between before and after learning by using skill practice exercises; 3.) to investigate the effectiveness index of learning by using the skill; practice exercises; and 4.) to study the opinions of students toward learning by using the skill practice exercises. The samples of this study comprised 38 Matthayomsuksa 1/1 students of Phaisarn Pittayakhom School,Prakhonchai District,Buriram Province, studying in the second semester of academic year 2016 selected by using Simple Random Sampling technique. The instruments for data collection were as follows: 1.) 9 sets of the skill practice exercises for developing critical reading by using the CIRC Cooperative Learning Activities Technique for Matthayomsuksa 1 students; 2.) 9 lesson plans used along with the skill practice exercises; 3.) a 30-item learning achievement test; and 4.) a 10-item 5-rating scale questionnaire asking the students’ opinions towards the skill practice exercises. The results of this research were as follows: 1.The efficiency of the skill practice exercises for developing critical reading by using the CIRC Cooperative Learning Activities Technique for Matthayomsuksa 1 students was 90.76/92.37. 2.The learning achievement of students after learning by using the skill practice exercises was higher than before learning at the statistical significant difference level of .05. 3.The effectiveness index of the learning by using the skill practice exercises was 0.6796 which revealed that the students’ learning achievement increased 67.96%. 4.The opinions of students toward learning by using the skill practice exercises as a whole was at a high level.