ระบบคลังข้อมูลทางวิชาการ BRU

รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน

Show simple item record

dc.contributor.author สงกรานต์, พันธุ์พินิจ
dc.date.accessioned 2017-09-02T05:07:26Z
dc.date.available 2017-09-02T05:07:26Z
dc.date.issued 2558
dc.identifier.uri http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/654
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนและ 3 ประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน โดยมีวิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครู ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัยเอกสารศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2 การจัดวิจัยเชิงสำรวจสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับความต้องการพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครู โรงเรียนเอกชน ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาพหุกรณีศึกษา ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน และระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน ผลวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.ความต้องการพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนโดยรวมอยู่ในระดับมากและด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้รองลงมาคือด้านภาวะผู้นำ 2.สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนมีส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 หลักการของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานประกอบด้วย 11 องค์ประกอบ คือ การตั้งเป้าหมาย การบูรณะ การเน้นสมรรถนะ ความยืดหยุ่น ความเป็นระบบ การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ การสร้างแรงจูงใจ ความรับผิดชอบ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การกำกับติดตามและการสนับสนุน ส่วนที่ 2 ลักษณะของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน ได้แก่ 1 ระบบย่อยภายในโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย ระบบย่อยภายในโรงเรียน 4 ด้าน คือด้านคน ด้านโครงสร้าง ด้านงาน และเทคโนโลยี 2 วงจรการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน ประกอบด้วยการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน คือ การประเมินสภาพการจัดการเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้การปฏิบัติการเรียนรู้ในที่ทำงานและการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3 สมรรถนะประจำสายงานครูประกอบด้วย 6 ด้านคือการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้การพัฒนาผู้เรียนการบริหารจัดการชั้นเรียนการวิเคราะห์สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนภาวะผู้นำครู และการสร้างความสัมพันธ์และร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ ส่วนที่ 3 แนวทางการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนไปใช้มีแนวปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้ 1)กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน 2)วางแผนการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3)สร้างความตระหนักและความเข้าใจ 4)สร้างแรงจูงใจ 5)พัฒนาความสามารถของบุคลากร 6)สื่อสาร 7)จัดช่วงเวลาให้มีการพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 8)จัดคู่มือ และ 9)ดำเนินการใช้รูปแบบกับครูกลุ่มตัวอย่างในโรงเรียนเอกชนเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาใช้ได้กับครูและโรงเรียน และส่วนที่ 4 เงื่อนไขหรือข้อจำกัดของการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนไปใช้คือปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ประกอบด้วย 1)การสนับสนุนอย่างจริงจังจากผู้บริหารในการอำนวยการให้การจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 2)การมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3)การจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานที่สอดคล้องกับสภาพการปฏิบัติงานหรือ 4)พัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบเพื่อเอื้อกับการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 5) การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย 6) มีขวัญและกำลังใจที่มีต่อการทำงานเขตการบริหารงานของโรงเรียนที่เปิดระบบ 8)บรรยากาศขององค์กรที่มีความร่วมมือร่วมใจกันในการทำงาน 3.ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนโดยผู้บริหารและครู พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก แก้ไข en_US
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนและ 3 ประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน โดยมีวิธีดำเนินการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาความต้องการพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครู ประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การวิจัยเอกสารศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นตอนที่ 2 การจัดวิจัยเชิงสำรวจสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับระดับความต้องการพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครู โรงเรียนเอกชน ระยะที่ 2 สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนประกอบด้วย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาพหุกรณีศึกษา ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน และระยะที่ 3 การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน ผลวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1.ความต้องการพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนโดยรวมอยู่ในระดับมากและด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือด้านการสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้รองลงมาคือด้านภาวะผู้นำ 2.สร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน ได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนมีส่วนประกอบ 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 หลักการของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานประกอบด้วย 11 องค์ประกอบ คือ การตั้งเป้าหมาย การบูรณะ การเน้นสมรรถนะ ความยืดหยุ่น ความเป็นระบบ การเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ การสร้างแรงจูงใจ ความรับผิดชอบ การปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล การกำกับติดตามและการสนับสนุน ส่วนที่ 2 ลักษณะของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน ได้แก่ 1 ระบบย่อยภายในโรงเรียน ซึ่งประกอบด้วย ระบบย่อยภายในโรงเรียน 4 ด้าน คือด้านคน ด้านโครงสร้าง ด้านงาน และเทคโนโลยี 2 วงจรการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน ประกอบด้วยการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน คือ การประเมินสภาพการจัดการเรียนรู้ การออกแบบการจัดการเรียนรู้การปฏิบัติการเรียนรู้ในที่ทำงานและการประเมินผลการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3 สมรรถนะประจำสายงานครูประกอบด้วย 6 ด้านคือการบริหารหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้การพัฒนาผู้เรียนการบริหารจัดการชั้นเรียนการวิเคราะห์สังเคราะห์และการวิจัยเพื่อพัฒนาผู้เรียนภาวะผู้นำครู และการสร้างความสัมพันธ์และร่วมมือกับชุมชนเพื่อการจัดการเรียนรู้ ส่วนที่ 3 แนวทางการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนไปใช้มีแนวปฏิบัติ สรุปได้ดังนี้ 1)กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน 2)วางแผนการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3)สร้างความตระหนักและความเข้าใจ 4)สร้างแรงจูงใจ 5)พัฒนาความสามารถของบุคลากร 6)สื่อสาร 7)จัดช่วงเวลาให้มีการพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 8)จัดคู่มือ และ 9)ดำเนินการใช้รูปแบบกับครูกลุ่มตัวอย่างในโรงเรียนเอกชนเพื่อนำไปปรับปรุงพัฒนาใช้ได้กับครูและโรงเรียน และส่วนที่ 4 เงื่อนไขหรือข้อจำกัดของการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน เพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนไปใช้คือปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ ประกอบด้วย 1)การสนับสนุนอย่างจริงจังจากผู้บริหารในการอำนวยการให้การจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 2)การมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถที่ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 3)การจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานที่สอดคล้องกับสภาพการปฏิบัติงานหรือ 4)พัฒนาทรัพยากรมนุษย์อย่างเป็นระบบเพื่อเอื้อกับการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงาน 5) การมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย 6) มีขวัญและกำลังใจที่มีต่อการทำงานเขตการบริหารงานของโรงเรียนที่เปิดระบบ 8)บรรยากาศขององค์กรที่มีความร่วมมือร่วมใจกันในการทำงาน 3.ผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชนโดยผู้บริหารและครู พบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก แก้ไข en_US
dc.language.iso th_TH en_US
dc.publisher มหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์. วิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ en_US
dc.title รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในที่ทำงานเพื่อพัฒนาสมรรถนะประจำสายงานครูโรงเรียนเอกชน en_US
dc.title.alternative A MODEL OF THE WORKPLACE LEARNING MANAGEMENT TO DEVELOP FUNCTIONAL COMPETENCY FOR PRIVATE SCHOOL TEACHERS en_US
dc.type Thesis en_US


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account

Statistics