ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2561 โรงเรียนอนุบาลเอี่ยมสุข อำเภอพยัคฆภูมิพิสัยจังหวัดมหาสารคามจำนวน 36 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่ายด้วยการจับสลาก โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนซึ่งเป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อและ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 3 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ประสิทธิภาพ ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมติฐาน โดยใช้ Dependent Samples (t - test)

ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 84.61/85.27 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษเพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน โดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.6073 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.6073 หรือคิดเป็นร้อยละ 60.73 4. ความพึงพอใจของนักเรียน มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาภาษาอังกฤษ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือ เทคนิคLT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด "

The purposes of this research were : 1) to develop the learning to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students to meet the criteria set at 80/80, 2) to compare the students' learning achievement before and after learning by using learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3students, 3) to investigate the effectiveness index of the learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students, and 4) to investigate the students' satisfaction towards learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students. The sample groups were 36 Prathomsuksa 3 students studying in semester 1 of the academic year 2018 at Lasook School in Phayakkaphumphisai District, Mahasarakham Province. They were selected by simple random sampling. The research instruments consisted of :1) 6 sets of the learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative for Prathomsuksa 3 students 2) 6 lesson plans to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students, 3) a 30 - items with 4 multiple-choice achicvement test, and 4) a 10 - item of 5 - rating scale satisfaction questionnaire. The statistics used for analyzing the collected data were percentage, mean, standard deviation, E1/E2 E.I The hypothesis was tested by dependen sample t - test. The results were as follows : 1. The efficiency of the learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students at 84.61/85.27 which was higher than the criteria set of 80/80. 2. The students' learning achievement after learning with the learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students was higher than before with the statistically significant at the level of .01. 3. The effectiveness index of the packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students was at 0.6073 which showed that the students' knowledge increased 60.73% 4. The students' satisfaction toward learning through the learning activity packages to improve reading skills on English subjects by using cooperative learning, LT for Prathomsuksa 3 students by using cooperative learning techniques as a whole was at the highest level.