ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนชนิดาอำเภอหนองหงส์จังหวัดบุรีรัมย์สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 จำนวน 30 คนได้จากการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการจับสลากโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 12 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 12 แผนแผนละ 1 ชั่วโมงรวมทั้งสิ้น 12 ชั่วโมงทั้งนี้ไม่รวมทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกจำนวน 30 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วย แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เป็นมาตราส่วนประมาณค่าแบ่งระดับความพึงพอใจเป็น 5 ระดับคือมากที่สุดมากปานกลางน้อยน้อยที่สุดจำนวน 1 ชุดรวม 10 ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบสมมติฐานโดยใช้ E, / E, Dependent Samples t-test และค่าดัชนีประสิทธิภาพผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพ (E, E.) เท่ากับ 89. 44 78. 56 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนด 75/75 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ. 05 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เท่ากับ 0. 6069 หรือคิดเป็นร้อยละ 60. 69 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค CIRC สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมาก

The purposes of this study were as follows: 1) to study the effectiveness of the skill practice packages entitled reading comprehension packages by using cooperative learning CIRC technique for Prathomsuksa 6 students with the criteria set at 75/75; 2) to compare the students 'learning achievement before and after learning through the skill practice packages entitled reading comprehension packages by using cooperative learning CIRC technique; 3) to find the out effectiveness index of the skill practice packages entitled reading comprehens ion packages by using cooperative learning CIRC technique; 4) to study the student' satisfaction towards the skill practice packages entitled reading comprehension packages by using cooperative learning CIRC technique. The samples were 30 Prathomsuksa 6/1 students, selected by using simple random sampling through drawing lots. A one group pretest-posttest design of the experiment research was employed in this study. The instruments used in this study were: 1) the 12 reading comprehension packages by using cooperative learning CIRC technique; 2) 12 lesson plans with 2 hours per lesson; 3) learning achievement test before and after using the skill practice packages entitled reading comprehension by using cooperative learning CIRC technique; and 4) a 10-item of 5-rating scale satisfaction questionnaire. The statistics used for analyzing the collected data were percentage, mean, and standard deviation. The hypotheses were tested by using E,/ E, dependent samples t-test and the effectiveness index. The results were as follows: 1) The skill practice entitled reading comprehension packages by using cooperative learning CIRC technique for Prathomsuksa 6 students had an efficiency (E, / E,) of 89.44 /78.56 which was higher than the criteria set at 75/75 2) Prathomsuksa 6 students who learned by the skill practice packages entitled reading comprehension by using cooperative learning CIRC technique after learning had higher achievement than before learning at the .05 level of statistically significant difference 3) The effectiveness index of the skill practice packages entitled reading comprehension packages by using cooperative learning CIRC technique equaled 0.6069 which was 60.69 % 4) Prathomsuksa 6 students were satisfactied toward the skill practice packages entitled reading comprehension by using cooperative learning CIRC as a whole at the high level.