ผลการใช้บทเรียนผ่านเครือข่าย โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่อง ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียน ด้วยบทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้ด้วยบทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อศึกษาความพึ่งพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยนี้คือ นักเรียนชั้นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนนารายณ์คำผงวิทยา อำเภอโนนนารายณ์ จังหวัดสุรินทร์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 33 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องมีนักเรียน 40 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple random sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม ด้วยวิธีจับสลากเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) บทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2)แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น จำนวน 1 ฉบับ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.36 – 0.60 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.28 – 0.77 และความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.9070 และ 4) แบบทดสอบความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนผ่านเครือข่าย โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 13 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีความสอดคล้อง E1/E2 ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมติฐานการวิจัย โดยใช้ Dependent sample t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. บทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 83.75/83.76 ซึงสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ 2. นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนผ่านเครือข่าย โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.1 3. บทเรียนผ่านเครือข่าย เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.5357 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.5357 หรือคิดเป็นร้อยละ 53.57 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีผลต่อบทเรียนผ่านเครือข่าย โดยใช้ทฤษฎีการสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง เรื่องระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด

The purpose of this research were: 1) to study of efficiency of Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory for Matthayomsuksa 5 Students to meet the criteria set at 80/80; 2) to compare the learning achievement before and after learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory for Matthayomsuksa 5 Students; 3) to investigate the Effectiveness index of the learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by using Construction Theory for Matthayomsuksa 5 Students; 4) to study the satisfaction of students toward learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Construction Theory for Matthayomsuksa 5 Students. The sample of this study comprised 40 Matthayomsuksa 5/1 Students of Naraikhampongwitthaya School in Nonnarai district, Surin province under the Secondary Education Service Area Office 33 studying in the first semester year 2015. The instrument of data collection were: 1) a set of the Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Constructivism Theory for Matthayomsuksa 5 Students; 2) lesson plans on Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Construction Theory for Matthayomsuksa 5 Students; 3) an achievement test on Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Construction Theory for Matthayomsuksa 5 Students with the difficulty between 0.36 – 0.60, the discrimination between 0.28 – 0.77 and the reliability with 0.9070; and 4) a 13 items with 5 ratings questionnaire asking the students’ satisfaction for learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Constructivism Theory for Matthayomsuksa 5 Students. The statistics for data analysis were percentage, mean, standard deviation, E1/E2 , and E.I. The hypothesis was tested by using the dependent sample t-test. The results of the study revealed as follow: 1.The efficiency of Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Constructivism Theory for Matthayomsuksa 5 Students was 83.75/83.76 which was higher than criteria set at 80/80. 2. The learning achievement after learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Constructivism Theory for Matthayomsuksa 5 Students was higher than before learning at the significant difference level .01. 3. The effectiveness index of learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Constructivism Theory for Matthayomsuksa 5 Students was 0.5357 which revealed that the student’ learning achievement progress was at 53.57%. 4. The satisfaction of students toward learning by using Web-based Instruction on “ Fundamental of Computer Network” Theory by Using Constructivism Theory for Matthayomsuksa 5 Students as a whole was at the highest level.