การพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และการคิดอย่างมีวิจารณญาณโดยใช้ชุด กิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่องสารรอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนวัดบ้านเมืองโพธิ์จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 6 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และแบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เรื่อง สารรอบตัวเรา เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือกอย่างละ 20 ข้อและ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรม การเรียนรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน E1/E2 ดัชนี ประสิทธิผล และการทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติการหาค่า t แบบ Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพ 84.02/83.62 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุด กิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ. 01 3. ดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ เรื่อง สารรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เท่ากับ 0.7155 แสดง ว่านักเรียน มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพิ่มขึ้น 0.7155 หรือคิดเป็นร้อยละ 71.55 4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกับรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้เรื่องสารรอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

The purposes of this research were: 1) to study the efficiency of learning packages with inquiry learning management entitled "Matter around Us" for third grade students to meet the criteria set at 80/80; 2) to compare the learning achievement of science process skills and critical thinking ability of students before and after learning by using the learning packages with inquiry learning management; 3) to investigate the effectiveness index of studernts studying the learning packages with inquiry learning management; and 4) to study learning satisfaction of third grade students towards the learning packages with inquiry learning management. The sample used in this study was 29 students from class 3/2 at Watbanmueangpho School, obtained through applying the cluster sampling. The research instruments included: 1) six learning packages with inquiry learning management entitled "Matter around Us" for third grade students, 2) a 20-item multiple choice achievement test, scientific process skill and critical thinking ability test on "Matter Around Us" for third grade students, and 3) a 10-items questionnaire asking students satisfaction towards the learning packages with five rating scale. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, E1/E2, effective index, and the hypothesis was tested by using dependent samples t-test. The results of the study were as follows: 1. The efficiency of the learning packages with inquiry learning management entitled "Matter around Us" for third grade students was 84.02/83.62 2. The learning achievement, science process skills and critical thinking ability of students after learning by using the learning packages with inquiry learning management was higher with statistical significance at the level of.01. 3. The effectiveness index of students studying the learning packages with inquiry learning management was 0.7155. In other words, learning achievement had increased 0.715.5 or considered as 71.55 % 4. The learning satisfaction of third grade students towards the learning packages with inquiry learning management in general was at the highest level.