ปัจจัยที่มีผลต่อความเครียดในการปฏิบัติงานของตำรวจจราจร กรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1)ศึกษาปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดใน การปฏิบัติงานของตำรวจจราจรกรุงเทพมหานคร2) เปรียบเทียบความแตกต่างความเครียดในการ ปฏิบัติงานตำรวจจราจรกรุงเทพมหานคร ที่มีปัจจัยส่วนบุคคลแตกต่างกัน 3)ศึกษาปัจจัยด้านการ ปฏิบัติงานที่มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการปฏิบัติงานของตำรวจจราจรกรุงเทพมหานคร4) สร้างสมการพยากรณ์ทา นายความเครียดในการปฏิบัติงานของตำรวจจราจรกรุงเทพมหานครกลุ่ม ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือข้าราชการตำรวจจราจรนครบาลกรุงเทพมหานคร ชั้นสัญญาบัตรและ ชั้นประทวน จากกองบังคับการตำรวจนครบาล1-9จำนวน 88 สถานีซึ่งเป็นหน่วยงานขึ้นตรงต่อ กองบัญชาการตำรวจนครบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามสูตรของ ทาโรยามาเน่ (Taro Yamane, 1973)ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่างจำนวน 354คน และทำการสุ่มตัวอย่าง แบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling) การศึกษาวิจัยแบบผสาน (Mixed Method) ที่ดำเนินงาน ทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์แบบกึ่ง โครงสร้าง (Semi-structured Interview Protocol)และแบบสอบถาม (Questionnaire) โดย แบบสอบถามมีค่าความเชื่อมั่น ตอนที่2 เท่ากับ .917และตอนที่3 เท่ากับ .914 ซึ่งถือว่าอยู่ใน ระดับสูง ทำการวิเคราะห์ผลด้วยสถิติค่าร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิสหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน (Pearson’s product-moment correlation coefficient) เปรียบเทียบความแตกต่างปัจจัยส่วนบุคคลโดยการวิเคราะห์t-test, F-test ทำการ เปรียบเทียบรายคู่ เมื่อพบความแตกต่างด้วยวิธีLSD และสร้างสมการถดถอยพหุคูณ (multiple regression) และคัดเลือกตัวแปรเข้าสมการด้วยวิธีการคัดเลือกแบบลำดับขั้น (Stepwise Selectionผลการวิจัยพบว่าปัจจัยด้านการปฏิบัติงานที่มีผลต่อความเครียดในการปฏิบัติงานของตำรวจจราจรกรุงเทพมหานครโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางโดยด้านลักษณะงาน ด้านเวลาในการ ปฏิบัติงาน ด้านความก้าวหน้าในการปฏิบัติงาน ด้านสัมพันธภาพกับผู้บังคับบัญชา ด้านสัมพันธภาพ กับเพื่อนร่วมงาน ด้านสภาพแวดล้อมในการทำงาน ด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติงาน และด้าน การสนับสนุนจากครอบครัว มีความสัมพันธ์กับความเครียดในการปฏิบัติงานของตำรวจจราจร กรุงเทพมหานครอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

The research entitled factor affecting stress in operation of traffic police in Bangkok aimed to 1) study the personal factor related to stress in operation of traffic police Bangkok, 2) compare stress in operation of traffic police in Bangkok with different personal factor, 3) study operational factor that related to stress in operation of traffic police in Bangkok, 4) create the prediction equations of stress in operation of traffic police in Bangkok. The research sample was Bangkok Metropolitan Traffic police officer both in commissioned and noncommissioned rank from the Metropolitan Police Division 1-9 from 88 stations which directly affiliated to the Metropolitan Police Bureau, National Police Office, the size of which was fixed by the formula of Taro Yamane, and 354 samples were obtained by stratified Random Sampling. The research method were mix method of qualitative and quantitative type. The tool used in this research consisted of semi structured Interview Protocol and questionnaire with reliability of second part at .917 and third part at .914, which were considered a high level. The data were analyzed by statistics such as percentage, mean, standard deviation, Pearson’s product moment correlation coefficient, the difference of factor was analyzed by t-test and f-test, Post-hoc Multiple Comparison Tests, Least Significant Difference, multiple regression prediction equation and variable was selected for prediction equation by stepwise selection.The research finding were as follows: operation factor affective stress in operation of Bangkok traffic police as a whole was at moderate level, whereas, the aspect of work, time of operation, progression in operation, relation with superior commander, relation with colleague, working environment, participation in operation, support from family had relation with stress in operation of Bangkok Metropolitan Traffic Police with statistical Significant level at .05 level.