การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

รินดา, รังดิษฐ์

dc.contributor.advisor	เบญจพร วรรณูปถัมภ์	en_US
dc.contributor.advisor	กระพัน ศรีงาน	en_US
dc.contributor.author	รินดา, รังดิษฐ์
dc.date.accessioned	2018-09-20T03:11:06Z
dc.date.available	2018-09-20T03:11:06Z
dc.date.issued	2561-09-06
dc.identifier.uri	http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/4326
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 คนจากโรงเรียนบ้านสว่างนาดี อำเภอชุมพวงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 7 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างง่าย ด้วยการจับฉลาก โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่มเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้มี 4 ชนิดประกอบด้วย 1) แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจจำนวน 5 ชุด 2) แผนการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT จำนวน 5 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ โดยมีค่าความยากง่าย ระหว่าง 0.37-0.73 ค่าอำนาจจำแนก ระหว่าง 0.24-1.00 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 และ 4) แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ มีความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.65 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงแบนมาตรฐาน E1/E2 ค่า E.I. และค่าทดสอบสมติฐานโดยใช้ Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1.แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LTมีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.49/82.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อเพิ่มความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT มีค่าเท่ากับ 0.6542 แสดงว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนรู้เพิ่มขึ้นเท่ากับ 0.6542 หรือคิดเป็นร้อยละ 65.42 4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT โดยรวมอยู่ในระดับมาก	en_US
dc.description.sponsorship	The purposes of this research were : 1) to develop the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Learning LT Technique to meet the criteria set 80/80 2) to compare the students' learming achievement before and after learning by using the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Leaming LT Technique; 3) to study the effectiveness index of learning by using the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Learning LT Technique; and 4) to study the satisfaction of Prathomsuksa 5 students towards learning by using the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Leaning LT Technique. The samples of this research consisted of 18 Prathomsuksa 5 students at Sawang Nadee School, Chum Phuang district, under Nakhonratchasima Primary Educational Service Area Office 7 in the first semester of academic year 2014, selected by simple random sampling using the classrooms as the sampling unit. The research instruments were: 1) 5 English Reading Comprehension Skills Exercises 2) 5 lesson plans with cooperative learning LT technique; 3) a 30-item achievement test with difficulty between 0.37-0.73, discrimination between 0.24-1.00 and the reliability of 0.88; and 4) 10-item of 5-rating scale satisfaction questionnaire with the reliability of 0.65. The statistics used for data analysis were percentage, mean, standard deviation, E1/E2 and E.I. The hypothesis was tested by dependent samples t-test. The results of this research were as follows : 1. The efficiency of the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Learning LT Technique was at 84.49/82.78 which was higher than the criteria set at 80/80 2. The students' learning achievement after learning with the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Leaning LT Technique was higher than before learning with the statistically significant difference at the level of.01. 3. The effectiveness index of learning through the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Learning LT Technique was 0.6542 which indicated that the students ' learning progress increased with the value of 0.6542 or 65.42 % . 4. Prathomsuksa 5 students were satisfied towards learning by the English Reading Comprehension Skills Exercises by Using Cooperative Learning LT Technique in overall at a high level.	en_US
dc.language.iso	th_TH	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์	en_US
dc.subject	การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5	en_US
dc.title	การพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค LT สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5	en_US
dc.title.alternative	The Development of the English Reading Comperhension Skills Exercises by Using Cooperative Learning LT Technique for Prathomsuksa 5 Students	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.discipline	หลักสูตรและการสอน	en_US
dc.degree.level	ปริญญาโท	en_US
dc.degree.name	ครุศาสตรมหาบัณฑิต	en_US