Description:
การศึกษานี้เป็นการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบกำลังดัดขวางของเรซินอะคริลิกที่บ่มด้วยวิธีการต่างๆ 4 วิธี ได้แก่
เรซินชนิดบ่มด้วยความร้อน เรซินอะคริลิกชนิดบ่มด้วยตนเอง เรซินอะคริลิกชนิดบ่มด้วยพลังงานคลื่นไมโครเวฟ และ
เรซินอะคริลิกชนิดบ่มด้วยความร้อนแต่ใช้พลังงานคลื่นไมโครเวฟในการบ่ม และเพื่อเปรียบเทียบกำลังดัดขวางภายหลัง
การซ่อมฟันเทียมฐานเรซินอะคริลิกที่ผลิตจากเรซินอะคริลิกชนิดบ่มด้วยความร้อน โดยทำการเตรียมชิ้นทดสอบเรซิ
นอะคริลิกวิธีการละ 15 ชิ้น ขนาด 64 มิลลิเมตร × 10 มิลลิเมตร × 3.30 มิลลิเมตร เก็บในน้ำกลั่นที่อุณหภูมิ 37 องศา
เซลเซียส นาน 50 ชั่วโมง แล้วทำการทดสอบกำลังดัดขวางด้วยวิธีการทดสอบการดัดโค้งแบบสามจุด จากนั้นนำข้อมูลที่
ได้ไปวิเคราะห์ความแตกต่างทางสถิติ โดยการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบกำลังดัดขวางของเรซินอะคริกที่บ่มด้วยวิธีการ
ต่างๆ 4 วิธี ใช้สถิติ One-way ANOVA และการศึกษาเพื่อเปรียบเทียบกำลังดัดขวางภายหลังการซ่อมฟันเทียมฐาน
เรซินอะคริลิกที่ผลิตจากด้วยความร้อนด้วยวิธีการต่างๆ 4 วิธี และฐานฟันเทียมเดิม ใช้สถิติ Kruskal–Wallis
ผลการศึกษาพบว่ากำลังดัดขวางของเรซินอะคริลิกที่บ่มด้วยวิธีการต่างๆ 4 วิธี มีความแตกต่างกันอย่างน้อย 1 คู่ อย่าง
มีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.001) และกำลังดัดขวางภายหลังการซ่อมฟันเทียมฐานเรซินอะคริลิกด้วยวิธีการต่างๆ 4 วิธี
และฐานฟันเทียมเดิมมีความแตกต่างกันอย่างน้อย 1 คู่ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P < 0.001) สรุปผลการศึกษาได้ว่า
เรซินอะคริลิกชนิดบ่มด้วยความร้อนมีกำลังดัดขวางสูงสุด และการซ่อมฐานฟันเทียมด้วยเรซินอะคริลิกชนิดบ่มด้วย
ความร้อนมีกำลังดัดขวางมากกว่าการซ่อมด้วยวิธีการอื่นๆ