Description:
บทคัดย่อ
วัตถุประสงค์ของการวิจัยในครั้งนี้ คือ การศึกษาความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
หลักทรัพย์ที่มีต่อปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ และการศึกษาความคิดเห็นของนักวิเคราะห์
หลักทรัพย์ในการนำหลักการกำกับดูแลกิจการไปใช้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ใน
การวิจัย คือ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ติดต่อกับผู้ลงทุน ให้ปฏิบัติหน้าที่ใน
ประเภท ก จำนวน 215 ราย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม และวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ
โดยแสดงผลเป็นค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยการวิเคราะห์
สถิติค่า F-test (One-Way ANOVA) LSD (Least-Significant Difference) และความ
แปรปรวนของตัวแปรหลายตัว (MANOVA) ณ ระะดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.05
ผลการวิจัยพบว่า นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ใช้ปัจจัยพื้นฐาน และการวิเคราะห์ทางเทคนิค
เรียงตามลำดับอยู่ในระดับมาก ส่วนการกำกับดูแลกิจการที่ดีอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีความคิดเห็น
ในเรื่องการเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใสอยู่ในระดับมากเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาเป็นเรื่องมีความ
คิดเห็นอยู่ในระดับปานกลางได้แก่ เรื่องความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท สิทธิของผู้ถือหุ้น
การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน ตามลำดับ ส่วนบทบาทของผู้มีส่วนได้เสียมีการใช้น้อยที่สุด
นอกจากนี้ยังพบว่านักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่มีประสบการณ์ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์แตกต่างกัน มี
ความคิดเห็นในการนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีไปใช้ในการวิเคราะห์หลักทรัพย์ในภาพรวม
แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 0.05 โดยแตกต่างกันในเรื่องสิทธิของผู้ถือหุ้น ส่วนในเรื่องการ
ปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน บทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
และความรับผิดชอบของคณะกรรมการบริษัท ไม่มีความแตกต่างเมื่อจำแนกตามประสบการณ์การ
ทำงาน