Description:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ 1) เพื่อพัฒนาชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่า
รู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน โดยใช้ชุดการเรียนรู้เรื่อง
กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดการ
เรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้เรื่อง กฎหมายน่ารู้ กลุ่มตัวอย่าง
ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 21 คนที่เลือกเรียนวิชาสาระ
เพิ่มเติมกฎหมายน่ารู้ ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ซึ่งผู้วิจัยเป็น
ผู้สอนประจำวิชา ทดลองใช้ชุดการเรียนรู้ ในภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2552 ระยะเวลาที่ใช้
ในการทดลอง 7 สัปดาห์ๆละ 2 คาบ รวมระยะเวลา 14 คาบ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดการ
เรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบทดสอบความพึงพอใจของนักเรียน
ที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วน
เบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที (t-test) ผลการวิจัยนี้คาดว่าจะได้
1. ชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่
พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โดยใช้ชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับนักเรียนชั้น
มัธยมศึกษาปีที่ 3 สูงกว่าร้อยละ 50
4. นักเรียนมีความพึงพอใจที่เรียนด้วยชุดการเรียนรู้ เรื่อง กฎหมายน่ารู้ สำหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมาก