การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและความสัมพันธ์ของ รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ผู้ปกครอง สัมพันธภาพในครอบครัว การตัดสินใจเลือก เกมออนไลน์ การเล่นเกมออนไลน์ และผลที่ตามมาจากการเล่นเกมออนไลน์ โดยใช้การวิจัย แบบผสมผสานระหว่างการวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างใช้ แบบสอบถามนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 480 คนจากสถานศึกษาสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เขตพื้นที่การศึกษากรุงเทพมหานครทั้ง 3 เขต โดยใช้ วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน กลุ่มตัวอย่างเชิงคุณภาพใช้การสัมภาษณ์เจาะลึกทั้ง ผู้บริหารระดับสูงและผู้ปกครองที่มีบุตรหลานติดเกมจำนวน 10 ครอบครัว ด้วยวิธีการสุ่ม ตัวอย่างแบบเจาะจง การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณใช้การวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง (Structural equation modeling) ด้วยโปรแกรม LISREL เพื่อทดสอบและยืนยันความ สอดคล้องกลมกลืนของแบบจำลองตามสมมุติฐานการวิจัยกับข้อมูลเชิงประจักษ์ ส่วนข้อมูล เชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content analysis) ผลการวิเคราะห็แบบจำลองสมการโครงสร้างตามแบบจำลองทางเลือก พบว่า มีค่าดัชนี ความกลมกลืนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่ดีสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยู่ในระดับดีมาก โดย พิจารณาจากค่า Chi-Square= 183.42, df =75, Relative Chi -Square = 2.44, GFI=0.96, AGFI=0.94, RMR=0.05, RMSEA=0.048,CFI =0.96 และCN = 365.86 ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ส่งผลโดยตรงในทิศทางที่ตรงกันข้ามกับสัมพันธภาพใน ครอบครัวอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และรูปแบบการอบรมเลี้ยงดูของพ่อแม่ สัมพันธภาพในครอบครัว การตัดสินใจเลือกเกมออนไลน์ส่งผลทางตรงต่อการเล่นเกมออนไลน์ อย่างมีนัย สำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ในขณะที่การเล่นเกมออนไลน์ส่งผลโดยตรงต่อผลที่ ตามมามากที่สุด ทั้งนี้ผลของตัวแปรทุกตัวจากข้อมูลเชิงปริมาณมีความสอดคล้องกับข้อมูลที่ได้ จากการวิจัยเชิงคุณภาพ ทำให้งานวิจัยมีความชัดเจนยิ่งขึ้น