Description:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาการใช้อำนาจของผู้บริหารในสถานศึกษา
ขั้นพื้นฐานจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อศึกษาความผูกพันต่อองค์กรของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
จังหวัดร้อยเอ็ด และเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อำนาจของผู้บริหารกับความผูกพัน
ต่อองค์กรของครูในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดร้อยเอ็ด ประชากรในการวิจัยในครั้งนี้ คือ
ข้าราชการครูผู้สอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1,
2 และ3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ ข้าราชการครูผู้สอนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 1-3 จำนวน 375 คน โดยใช้กลุ่มตัวอย่างแบบหลาย
ขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 1 ฉบับ แบ่งเป็น 3 ตอน
คือ แบบสอบถามเกี่ยวกับการใช้อำนาจของผู้บริหารตามการรับรู้ของครู มีค่าความเที่ยง 0.96
และแบบสอบถามเกี่ยวกับความผูกพันต่อองค์กรมีค่าความเที่ยง 0.73 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่า
ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าสัมประสิทธิ์สัมพันธ์ของเพียร์สัน การวิจัย
ปรากฏผลดังนี้
1. ครูผู้สอนมีการรับรู้ว่าผู้บริหารโรงเรียนใช้อำนาจโดยรวม อำนาจการให้รางวัล
อำนาจการบังคับหรือลงโทษ อำนาจตามกฎหมาย อำนาจการอ้างอิง อำนาจความเชี่ยวชาญ
อำนาจการพึ่งพา อำนาจข่าวสารและการประชาสัมพันธ์ และอำนาจบารมีมีอยู่ในระดับมาก
2. ความผูกพันต่อองค์กรของครูอยู่ในระดับสูง
3. การใช้อำนาจของผู้บริหารโดยภาพรวมกับความผูกพันต่อองค์กรของครูผู้สอนมี
ความสัมพันธ์โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.79 ซึ่งอยู่ในระดับสูง
เมื่อพิจารณาเป็นรายอำนาจพบว่า มีค่าความสัมพันธ์ระหว่างการใช้อำนาจของ
ผู้บริหารกับความผูกพันต่อองค์กรของครู ดังนี้โดยมี อำนาจบารมี อำนาจความเชี่ยวชาญ
อำนาจการพึ่งพาอำนาจการให้รางวัล อำนาจข่าวสารและประชาสัมพันธ์ และอำนาจการอ้างอิง
มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรของครู อยู่ในระดับสูง ส่วน อำนาจตามกฎหมาย และอำนาจการบังคับหรือการลงโทษ มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์กรของครูในระดับปาน
กลาง