Description:
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและหาความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะ
การเป็นผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษากับการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้อำนวยการสถานศึกษา จำนวน
136 คน ได้จากการสุ่มจากประชากร โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางของเครจซีและ
มอร์แกน (Krejcie & Morgan) แล้วทำการสุ่มแบบแบ่งชั้น (Stratified Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบ
รายการ (Check List) แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ และแบบปลายเปิด
(Open Form) แบบสอบถามมีค่าอำนาจจำแนกระหว่าง 1.950 - 7.656 และค่าความเชื่อมั่น
เท่ากับ .9851 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ
สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์อย่างง่ายแบบเพียร์สัน กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัย
พบว่า
1. ผลการวิเคราะห์คุณลักษณะการเป็นผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษา ตาม
ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็น
รายด้าน พบว่าทุกด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เช่นเดียวกัน
2. ผลการวิเคราะห์การดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ตาม
ความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา โดยรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็น
รายด้าน พบว่าทุกด้านมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เช่นเดียวกัน
3. ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะการเป็นผู้นำของผู้บริหาร
สถานศึกษากับการดำ เนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา ในภาพรวมมี
ความสัมพันธ์กันทางบวกอยู่ในระดับมาก
4. ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะการเป็นผู้นำของ
ผู้บริหารสถานศึกษากับการดำเนินงานการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา คือ ผู้บริหารต้อง
มีภาวะผู้นำ การปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดี ทั้งในและนอกโรงเรียน ในเรื่องการครองตน ครอง
คน ครองงาน บริหารแบบยืดหยุ่นไม่เคร่งครัดจนเกินไป วางตัวให้เหมาะสมน่านับถือให้ความ
เป็นกันเองแบบพี่น้อง และผู้บริหารมีความจริงใจกับครู ไม่หวังแต่ความก้าวหน้าของตนเพียง
อย่างเดียว