Description:
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพภาวะผู้นำทาง
วิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 อำเภอประโคน
ชัย จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และขนาดของโรงเรียนที่
ปฏิบัติงานโดยประเมินใน 3 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านการจัดการเรียนการสอน
และด้านการนิเทศภายในโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ครูวิชาการจำนวน 84 คน และ
ครูผู้สอนจำนวน 285 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มีค่าความ
เชื่อมั่น .9794 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การ
ทดสอบสมมติฐานใช้ t-test แบบ Independent และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว
(One-Way ANOVA) ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน โดยรวมและรายด้านมีการปฏิบัติ
อยู่ในระดับมาก
2. สภาพภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามสถานภาพ
ตำแหน่ง พบว่าโดยรวมมีการปฏิบัติไม่แตกต่างกันและเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่ามีด้าน
การจัดการเรียนการสอนเท่านั้นที่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. สภาพภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามประสบการณ์ใน
การปฏิบัติงาน พบว่า โดยรวมและรายด้านมีการปฏิบัติไม่แตกต่างกัน
4. สภาพภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน จำแนกตามขนาดของ
โรงเรียน พบว่าโดยรวมมีการปฏิบัติแตกต่างกัน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการ
พัฒนาหลักสูตรและ ด้านการนิเทศภายในโรงเรียน มีการปฏิบัติแตกต่างกัน โดยที่โรงเรียน
ขนาดเล็กมีสภาพภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารมากกว่าโรงเรียนขนาดใหญ่ ส่วนด้านการ
จัดการเรียนการสอน โรงเรียนขนาดเล็กมีการปฏิบัติแตกต่างกับโรงเรียนขนาดกลางและโรงเรียน
ขนาดใหญ่ โดยที่โรงเรียนขนาดเล็กมีสภาพภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารมากกว่าโรงเรียน
ขนาดกลางและโรงเรียนขนาดใหญ่ตามลำดับ
5. ผู้ตอบแบบสอบถามได้ให้ข้อเสนอแนะแนวทางในการปฏิบัติที่สำคัญว่า
ผู้บริหารและครูควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรอย่างสม่ำเสมอ ควรมีการวาง
แผนการนิเทศการจัดการเรียนการสอนของครูอย่างเป็นระบบ ตลอดจนต้องส่งเสริมให้ครูจัดการ
เรียนการสอนโดยวิธีการที่หลากหลาย และมีการวางแผน กำหนดเกณฑ์ จัดตารางการนิเทศ
ภายในอย่างมีระบบ และปฏิบัติการนิเทศภายในอย่างจริงจัง