ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูวิชาการ จำนวน 66 คน และครูผู้สอน จำนวน 335 คน ได้จากการสุ่มแบบชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับและแบบปลายเปิด มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .9300 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ Independent Samples t-test , One-way ANOVA และการเปรียบเทียบรายคู่ในแต่ละด้านตามวิธีของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยพบว่า 1. ความคิดเห็นของครูที่มีต่อการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการจัดการหลักสูตรสถานศึกษาอยู่ในระดับมาก ส่วนด้านอื่นๆ อยู่ในระดับปานกลาง โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา รองลงมาคือ ด้านการเตรียมความพร้อมในการจัดทำหลักสุตรสถานศึกษา ด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านการสรุปการดำเนินงานและการบริหารหลักสูตรสถานศึกษา 2. เปรียบเทียบความคิดเห็นของครูวิชาการและครูผู้สอนที่มีต่อการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง โดยรวมแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมิ่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านการเตรียมความพร้อมในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและด้านการวางแผนดำเนินการใช้หลักสูตรไม่แตกต่างกัน ด้านการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและด้านการดำเนินการหรือบริหารหลักสูตร (ใช้หลักสูตร) แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. เปรียบเทียบความคิดเห็นของครูวิชาการและครูผู้สอนที่มีต่อการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำนำตามขนาดของโรงเรียน โดนรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการเตรียมความพร้อมในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและด้านการวางแผนดำเนินการใช้หลักสูตร แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนด้านอื่นๆ ไม่แตกต่างกัน 4. ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของครูวิชาการและครูผู้สอนที่มีต่อการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ที่มีจำนวนมากที่สุด คือ สถานศึกษาจัดสรรงบประมาณในการเตรียมสื่อไม่เพียงพอ ผู้บริหารขาดการประเมินคุณภาพภายในอย่างสม่ำเสมอ สถานศึกษาไม่มีคณะกรรมการและแผนการนิเทศในโรงเรียน ผู้บริหารขาดการดำเนินการดำเนินการรวบรวมความคิดเห็นของผู้บริหาร สถานศึกษาไม่มีการนำผลการการประเมินการจัดทำหลักสูตรไปปรับปรุงและพัฒนา ส่วนข้อเสนอแนะที่มีจำนวนมากที่สุด คือ สถานศึกษาต้องมีการวางแผนการทำโครงการเพื่อนำงบประมาณมาผลิตสื่อให้เหมาะสมในแต่ละกลุ่มสาระ และผู้บริหารควรแต่งตั้งคณะกรรมการในการนิเทศ กำกับ ติดตามและประเมินผลภายในเพื่อให้ครูได้มีความภาคภูมิใจในการติดตามการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของนักเรียน