การศึกษาผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) สร้างแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษที่มีประสิทธิภาพจากสื่อสิ่งพิมพ์ 2) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์และ 3) พัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์ กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโคกกลางอนุสรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 อำเภอลำปลายมาศ จังหวัดบุรีรัมย์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 จำนวน 12 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบฝึกทักษะจากสิ่งพิมพ์ จำนวน 6 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 15 แผน แบบทดสอบวัดผลสำฤทธิ์ด้านการอ่านโดยใช้แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์จำนวน 40 ข้อ โดยมีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.20-0.80 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.05 -1.00 และค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.7725 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบสมมติฐานการวิจัยโดยใช้ค่าสถิติ t (Dependent Samples t-test) ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์ ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 81.04 / 80.83 นั่นคือ แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 2. ผลสัมฤทธิ์ด้านการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้แบบฝึกทักษะจากสื่อสิ่งพิมพ์ พบว่า ค่าเฉลี่ยของคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนร้อยละ 43.75 และแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ผลการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียน จากการดูผลสัมฤทธิ์ทางการอ่าน พบว่า นักเรียนจำนวน 12 คน มีผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านดีขึ้นกว่าเดิม และแตกต่างจากเดิมร้อยละ 43.75 นอกจากนี้ จากการสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน พบว่าพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษจากสื่อสิ่งพิมพ์ อยู่ในระดับคุณภาพดี นั่นแสดงว่า แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพทำให้นักเรียนมีพัฒนาการด้านการอ่านดีขึ้น