Abstract:
เพื่อศึกษาความหลากหลายเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา (AMF) ในดินที่ปลูกมันสำปะหลังของประเทศไทย ท้าการการนับจำนวนสปอร์และศึกษาการเข้าอยู่อาศัยของ AMF จากการทำ pot culture วัดความเป็นกรดเป็นด่างของดิน ปริมาณฟอสฟอรัสในดิน ปริมาณอินทรียวัตถุในดินเพื่อศึกษาความสัมพันธ์กับจำนวนสปอร์ของ AMF และจากนั้นศึกษาเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของมันสำปะหลัง วางแผนการทดลองแบบ CRD 6 วิธีการทดลอง ได้แก่ 1) ไม่ใส่เชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา 2) ใส่เชื้อ Acaulospora sp. 3) ใส่เชื้อ Entrophospora schenkii 4) ใส่เชื้อ Glomus mosseae 5) ใส่เชื้อ Glomus aggregatum and 6) ใส่เชื้อ Scutellospora sp. จำนวน 3 ซ้้า โดยทำการศึกษาการเจริญเติบโตของท่อนพันธุ์มันส้าปะหลัง พันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 จากศึกษาวิจัย พบว่า มีเนื้อดินตั้งแต่ดินเหนียวจนถึงดินทราย มีค่า pH อยู่ระหว่าง 4-8 ปริมาณฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ อยู่ระหว่าง 0.06 – 583 mg kg-1 และปริมาณอินทรียวัตถุ อยู่ระหว่าง 0.3-6.2% และพบเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา 18 ชนิด มีปริมาณสปอร์ระหว่าง 0.6 – 15 spores g-1 soil และพบ Glomus sp และ Acaulospora sp. แทบทุกแปลงมันสำปะหลัง และจากการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณอินทรียวัตถุในดินและปริมาณสปอร์ของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรและความสัมพันธ์ระหว่างความเป็นกรดเป็นด่างของดินและปริมาณสปอร์ของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซา แต่พบว่าปริมาณฟอสฟอรัสในดินแปรผกผันระหว่างและปริมาณสปอร์ของเชื้อราอาร์บัสคูลาร์ไมคอร์ไรซาอย่างมีนัยสำคัญ (p>0.05) ดังสมการ y = -0.0289x + 2.9658 r2 = 0.015* ส่วนเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการเจริญเติบโตของมันส้าปะหลังได้แก่ Glomus mosseae และ Glotus aggregatum)