dc.contributor.advisor |
สงวน ทรงวิวัฒน์ |
en_US |
dc.contributor.advisor |
นิตยา บรรณประสิทธิ์ |
en_US |
dc.contributor.author |
ลาวัณย์, ปักโกทะสัง |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-28T02:53:14Z |
|
dc.date.available |
2017-09-28T02:53:14Z |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2560 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษเรียนร่วม ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ในกรอบของเนื้อหา 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาบุคลากร ด้านการจัดการสื่อและแหล่งเรียนรู้ ด้านการนิเทศภายใน และด้านการจัดปัจจัยสนับสนุน โดยจำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง ประเภทของโรงเรียน ประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน และขนาดของโรงเรียน กลุ่มของตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้มาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เป็นครูวิชาการ จำนวน 59 คน และครูผู้สอน จำนวน 269 คน รวมกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 328 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ ได้แก่ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบปลายเปิด แบบสอบถามมีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 8.533-15.298 และมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .9877 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และทดสอบรายคู่ตามตามวิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ครูวิชาการและครูผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษเรียนร่วม ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 โดยรวม และรายด้านทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการพัฒนาบุคลากร รองลงมาคือ ด้านการจัดการสื่อและแหล่งเรียนรู้ ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือด้านการจัดปัจจัยสนับสนุน 2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูวิชาการและครูผู้สอนเกี่ยวกับบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษเรียนร่วม ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการพัฒนาบุคลากร และด้านการจัดการสื่อและแหล่งเรียนรู้มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อจำแนกตามประเภท และขนาดของโรงเรียนที่ต่างกันพบว่า ทั้งโดยรวมและรายด้านทุกด้านไม่แตกต่างกัน และเมื่อจำแนกตามประสบการณ์ในการปฏิบัติงานที่ต่างกันพบว่า ทั้งโดยรวม และรายด้านทุกด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ครูวิชาการและครูผู้สอนได้แสดงความคิดเห็น หรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็กพิเศษเรียนร่วม ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ที่มีจำนวนมากที่สุดในแต่ละด้านได้แก่ ควรจัดครูผู้สอนเข้ารับการอบรมอย่างต่อเนื่องทุกครั้งที่มีการอบรมเกี่ยวกับการจัดการเรียนร่วม ควรมีการจัดสื่อให้หลากหลายและจัดให้มีการประเมินผลการใช้สื่อทุกครั้งเพื่อให้เกิดการพัฒนาการเรียนการสอนยิ่งขึ้น ควรมีการนิเทศอย่างต่อเนื่อง และนิเทศตามสภาพจริง และควรจัดงบประมารให้เพียงพอต่อการการจัดการเรียนรู้ |
en_US |
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.subject |
บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็ก พิเศษเรียนร่วม ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 |
en_US |
dc.title |
บทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้สำหรับเด็ก พิเศษเรียนร่วม ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 |
en_US |
dc.title.alternative |
ROLES OF SCHOOL ADMINISTRATORS ON PROMOTING LEARNING FOR SPECIAL EDUCATION EXPANSION STUDENTS IN SCHOOLS UNDER BURIRAM PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 1 |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |
dc.degree.discipline |
การบริหารการศึกษา |
en_US |
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
en_US |
dc.degree.name |
ครุศาสตรมหาบัณฑิต |
en_US |