Abstract:
บทคัดย่อ
การศึกษานี้ เป็นการวิจัยเชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประเมิน
ภาวะโภชนาการผู้ป่วยมะเร็งที่มารับการรักษาโดยเคมีบำบัด ศูนย์มะเร็งอุดรธานี ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้น
ไปจำนวน 162 คน รวบรวมข้อมูลโดยการใช้แบบสอบถาม และการเก็บข้อมูลจากเวชระเบียนของกลุ่ม
ตัวอย่าง เกี่ยวกับข้อมูลทั่วไป ข้อมูลการเจ็บป่วย อาการข้างเคียงด้านโภชนาการ การบริโภคอาหาร
ย้อนหลัง 24 ชั่วโมง ความถี่ในการบริโภคอาหารชนิดต่างๆ ประเมินภาวะโภชนาการโดยใช้ค่าดัชนี
มวลกาย ค่าอัลบูมินและน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงไปในระยะ 3 เดือน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิง
พรรณนา เพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยเพศ อายุ อาชีพ รายได้ ประเภทของมะเร็ง ระยะของการ
เกิดมะเร็ง ชนิดยาเคมีบำบัด ผลข้างเคียงของยาเคมีบำบัดกับ ภาวะโภชนาการผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมี
บำบัด ซึ่งประเมินภาวะโภชนาการจากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) วิเคราะห์ทีละตัวแปร (Univariate
Analysis) โดยใช้สถิติไคสแควร์ (χ 2 ), odd ratio (OR) และ 95%CI ของ OR ระยะเวลาที่ศึกษาระหว่าง
เดือนกุมภาพันธ์ 2553 – พฤษภาคม 2553
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดเป็นเพศชายร้อยละ 55.6 อายุน้อยกว่า 60
ปี ร้อยละ 66.1 ประเภทของมะเร็งที่พบคือพบ มะเร็งส่วนศีรษะและคอ ร้อยละ 27.2 มะเร็งส่วนระบบ
ทางเดินอาหาร ร้อยละ 48.1 มะเร็งปอด ร้อยละ 11.7 มะเร็งตับและท่อน้ำดี ร้อยละ 12.9 ตามลำดับ
ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ (BMI < 18.5 kg/m2) ร้อยละ 31.5 มีภาวะอ้วน
(BMI ≥ 25.0 kg/m2) และภาวะเสี่ยงต่อภาวะอ้วน (BMI 23.0-24.9 kg/m2) ร้อยละ 13.6 และ ร้อย
ละ 13.6 ตามลำดับ และค่าอัลบูมินต่ำกว่า 3.5 กรัม/เดซิลิตร ร้อยละ 11.7 น้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลง
ไป ร้อยละ 0.01-7.50 พบเป็นร้อยละ 43.2 ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดได้รับปริมาณพลังงานร้อยละ
71.4 ของปริมาณพลังงานที่ควรได้รับ (ค่ามัธยฐาน 671.0 กิโลแคลอรี) ปริมาณโปรตีนที่ได้รับร้อยละ
99.1 ของปริมาณที่ควรได้รับ (ค่ามัธยฐาน 28.8 กรัม) การกระจายพลังงานของอาหารที่บริโภค มาจาก
คาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ร้อยละ 61.9 , 16.6 และ 21.5 ตามลำดับ ปริมาณแคลเซียมและ
เหล็ก ได้รับร้อยละ 88.9 และ 96.3 (น้อยกว่า 2/3 ของปริมาณที่ควรได้รับ) ปริมาณวิตามินเอ วิตามินซี
วิตามินบีหนึ่ง วิตามินบีสอง และไนอะซิน ได้รับร้อยละ 87.0 ,56.2 ,52.5 ,79.6 และ 68.5 (น้อยกว่า 2/3ของปริมาณที่ควรได้รับ) ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดบริโภคข้าวเจ้าเป็นประจำทุกวันร้อยละ 48.8
บริโภคปลาน้ำจืดเป็นประจำทุกวันร้อยละ78.4 ส่วนผัก ผลไม้ บริโภคเป็นประจำทุกวันร้อยละ 18.5 ผล
การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ ไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยต่างๆ และภาวะโภชนาการ
ผลการศึกษาสรุปว่าผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดส่วนใหญ่มีภาวะทุพโภชนาการ ได้รับ
ปริมาณพลังงาน เกลือแร่และวิตามินต่ำกว่าปริมาณสารอาหารที่ควรได้รับ ดังนั้นจึงควรมีแนวทางใน
การให้อาหารและเสริมอาหารที่เหมาะสมกับภาวะและความต้องการพลังงาน สารอาหารและกำหนด
เป็นมาตรฐานการกำหนดพลังงานสารอาหารให้แก่ผู้ป่วยมะเร็งในศูนย์มะเร็งอุดรธานีต่อไป