Description:
บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ ่งหมายเพื่อศึกษา และเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและ
ครูที่ปรึกษาเกี่ยวกับสภาพปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่ วยเหลือนักเรียนในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27 โดย จำแนกตาม สถานภาพตำแหน่ ง และขนาดของโรงเรียนตามองค์ประกอบ
5 ด้านคือ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน ด้านการส ่งเสริมนักเรียน ด้านการ
ป้องกันและแก้ไขปัญหา และ ด้านการส ่งต ่อนักเรียน กลุ่ มตัวอย่ างที่ใชัในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้บริหารสถานศึกษา
จำนวน 118 คน และครูที่ปรึกษา จำนวน 338 คน รวมทั้งสิ้น 456 คน ซึ่งได้จากการสุ่ มจากประชากร โดยกำหนด
ขนาดของกลุ่ มตัวอย่ างตามตารางของ เครจซีและมอร์แกนและใช้วิธีการสุ ่ม แบบชั้นภูมิอย ่างมีสัดส่ วน เครื่องมือที่
ใช้ในครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ ได้แก่ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส ่วนประมาณค่ า และ แบบ
ปลายเปิด แบบสอบถามมีค่ าอำนาจจำแนกรายข้อ ตั้งแต่ 1.77 ถึง 2.53 และ ค่ าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ ากับ .9668
สถิติพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่ าความถี่ ร้อยละ ค ่าเฉลี่ย และ ส ่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบ
สมมติฐานโดยการทดสอบค ่าทีและการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต ่างของค ่าเฉลี่ยในแต่
ละด้านจะทดสอบความแตกต ่างเป็นรายคู่ ตามวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัย พบว่ า
1. สภาพปัญหาการดำเนินงานระบบดูแลช่ วยเหลือนักเรียน ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร
สถานศึกษาและครูที่ปรึกษา โดยรวมอยู ่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ า อยู ่ในระดับน้อยทุกด้าน
โดย เรียงลำดับค่ าเฉลี่ยจากสูงไปหาต่ำ ได้แก่ ด้านการรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคล ด้านการคัดกรองนักเรียน
ด้านการส่ งเสริมนักเรียน ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา และด้านการส่ งต่ อ ตามลำดับ
2. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่ปรึกษาเกี่ยวกับสภาพปัญหา
การดำเนินงานระบบดูแลช ่วยเหลือนักเรียน ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 27
จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ ง ทั้งโดยรวมและรายด้านทุกด้านแตกต่ างกันอย่ างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่ปรึกษาเกี่ยวกับสภาพปัญหา
การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 27
จำแนกตามขนาดของโรงเรียน โดยรวมแตกต่ างกันอย ่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน
พบว ่า ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหา และด้านการส ่งต่ อ แตกต่ างกันอย ่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .01
ส ่วนด้านอื่น ๆ แตกต ่างกันอย ่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ ระดับ .05
4. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูที่ปรึกษาได้แสดงความคิดเห็นหรือให้ข้อเสนอแนะที่มีจำนวนมากที่สุด
3 อันดับ ได้แก ครูที่ปรึกษาควรรู้จักนักเรียนเป็นรายบุคคลและควรมีการออกเยี่ยมบ้านนักเรียนเพื่อให้ได้รู้จักนักเรียนเพิ่มขึ้น โรงเรียนควรจัดค ่ายอบรมคุณธรรม จริยธรรม อย่ างต ่อเนื่องควรมีการจัดกิจกรรมส่ งเสริม
ความสามารถ การแสดงออกของนักเรียนในแต่ละด้านอย ่างสม่ำเสมอ และนอกจากมีการประเมินพฤติกรรม
นักเรียนแล้วควรดูจากข้อมูลในหลาย ๆ ด้าน และควรมีการติดตามดูแลอย ่างสม่ำเสมอพร้อมทั้งมีครูและฝ่ายที่
รับผิดชอบอย ่างเป็นระบบ ตามลำดับ