Description:
บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบเชิงสมมติฐานความสัมพันธ์โครงสร้าง
เชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ
ตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบเชิงสมมติฐานความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพล
ต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานกับข้อมูลเชิงประจักษ์ผู้ให้ข้อมูล
ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารสถานศึกษาครูแนะแนวและตัวแทนครูที่ปรึกษา จำนวน 570 คน จากโรงเรียน
ที่เปิดทำการสอนตั้งแต ระดับอนุบาลหรือระดับชั้นประถมศึกษาป6ที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปัที่ 6 ในสังกัด
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 190 โรงเรียน
เครื่องมือที่ใช ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามตามแนวคิดทฤษฎีที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้ แก่
ร้อยละค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพล
ต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพล
เพื่อตรวจสอบความสอดคล้องของรูปแบบเชิงสมมติฐานตามแนวคิดทฤษฎีที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นกับข้อมูลเชิงประจักษ์
ผลการวิจัยพบว่า
1. รูปแบบเชิงสมมติฐานความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของ
ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ผู้วิจัยสร้างและพัฒนาขึ้นจากแนวคิดทฤษฎีและ
กรณีศึกษา (Case Study) ประกอบด้วยตัวแปรแฝง4ตัวโดยจำแนกเป็นตัวแปรแฝงภายใน 3 ตัว ได้ แก่ สร้าง
องค์การแห่งการเรียนรู้ สร้างความร่วมมือกับชุมชนและประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนและตัวแปร
แฝงภายนอก1ตัวได้ แก่ ภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลง
2. รูปแบบความสัมพันธ์โครงสร้างเชิงเส้นของปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของระบบการดูแล
ช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์อยูในเกณฑ์ดีมีค่าไค้สแควร์ (χ
2)
เท่ากับ 55.65 ค่าองศาอิสระ (df) เท่ากับ 41 ค่าความน่าจะเป็นหรือระดับนัยสำคัญทางสถิติ (p-value) เท่ากับ
0.063 ค่าไค้สแควร์สัมพัทธ์ (χ
2/df) มีค่าเท่ากับ 1.357 ค่าดัชนีวัดระดับความสอดคล้อง (GFI) เท่ากับ 0.957 ค่า
ดัชนีวัดระดับความสอดคล้องที่ปรับแก้แล้ว (AGFI) เท่ากับ 0.904 ค่าดัชนีวัดระดับความกลมกลืน (SRMR) เท่ากับ
0.035 ค่าความคลาดเคลื่อนในการประมาณค่าพารามิเตอร์ (RMSEA) เท่ากับ 0.043 และมีค่าขนาดตัวอย่างวิกฤติ
(CN) เท่ากับ 211.720 โดยมีค่าอิทธิพลรวมของแต่ละปัจจัยดังนี้ปัจจัยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงมีอิทธิพลรวม
เท่ากับ 0.64 ปัจจัยสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้มีอิทธิพลรวมเท่ากับ 0.33 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
และปัจจัยสร้างความร่วมมือกับชุมชนมีอิทธิพลรวมเท่ากับ 0.21 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05
ประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับอิทธิพลทางตรงใน
ทิศทางบวกจากปัจจัยสร้างองค์การแห่งการเรียนรู มีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.33 ปัจจัยสร้างความร่วมมือกับชุมชนมี
อิทธิพลทางตรงในทิศทางบวกมีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.21 และในส่วนของปัจจัยภาวะผู้นำการเปลี่ยนแปลงซึ่งเป็นตัว
แปรแฝงภายนอกมีอิทธิพลทางตรงต่อประสิทธิผลของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานใน
ทิศทางบวกมีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.24 มีอิทธิพลทางอ้อมในทิศทางบวกโดยส่งผ่านปัจจัยสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้
และปัจจัยสร้างความร่วมมือกับชุมชนมีค่าอิทธิพลเท่ากับ 0.40 และมีค่าอิทธิพลรวมเท่ากับ 0.64