ระบบคลังข้อมูลทางวิชาการ BRU

การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

Show simple item record

dc.contributor.advisor กระพัน ศรีงาม en_US
dc.contributor.advisor มาลีณี จุโฑปะทา en_US
dc.contributor.author ชำนาญ, บุญวงศ์
dc.date.accessioned 2017-09-17T02:30:50Z
dc.date.available 2017-09-17T02:30:50Z
dc.date.issued 2557
dc.identifier.uri http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2073
dc.description.abstract การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาองค์ประกอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภายโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา 3) ศึกษาผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา กลุ่มตัวอย่างที่ใช้มนการวิจัยแบ่งเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 การสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 360 คน เป็นผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การสึกษามัธยมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้อัตราส่วน 20 : 1 ของจำนวนประชากร ต่อตัวแปรสังเกตได้ ซึ่งมาจากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน ระยะที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา เป็นผู้บริหารสถานสึกษาและคณะครูโรงเรียนลำปลายมาศ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 จำนวน 52 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย แบบสอบถามรูปแบบการบริหารวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษาจำนวน 81 ข้อ เป็นลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.94 คู่มือการบริหารจัดการตามรูปแบบการบริหารงานวิชาการ ที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษาและแบบสอบถามการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษาไปใช้ในสถานศึกษา จำนวน 14 ข้อ เป็นลักษณะมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1) สถิติการทดสอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา คือ การวิเคราะห์ความเหมาะสมของรูปแบบ (Model Fit) โดยใช้โปรแกรม AMOS 2) สถิติการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา คือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และ t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ผลการศึกษาองค์ประกอบรูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษามี 4 ด้าน คือ ด้านกระบวนการบริหารงานวิชาการ ด้านภาวะผู้นำ ด้านการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษาและด้านการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพ 2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ โดยกระบวนการบริหารวิชาการ ภาวะผู้นำ มีอิทธิพลตรงและส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพ ในด้านการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษามีอิทธิพล ทางอ้อมผ่านกระบวนการบริหารงานวิชาการ และส่งผลต่อการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งภาวะผู้นำมีอิทธิพลตรงและส่งพลต่อการทำงานเป็นทีม 3. ผลการใช้รูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา โดยก่อนใช้รูปแบบอยู่ในระดับไม่แน่ใจ หลังใช้รูปแบบอยู่ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง และระดับความคิดเห็นหลังใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 en_US
dc.language.iso th_TH en_US
dc.publisher มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ en_US
dc.title การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการที่มีประสิทธิภาพโดยยึดหลักภาวะผู้นำและการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ en_US
dc.type Thesis en_US
dc.degree.discipline การบริหารการศึกษา
dc.degree.level ปริญญาเอก
dc.degree.name ปรัญญาดุษฎีบัณฑิต


Files in this item

This item appears in the following Collection(s)

Show simple item record

Search DSpace


Advanced Search

Browse

My Account

Statistics