การพัฒนาชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2

มณีรัตน์, วงศ์ศรี

dc.contributor.advisor	ประสิทธิ์ สุวรรณรักษ์	en_US
dc.contributor.advisor	กระพัน ศรีงาน	en_US
dc.contributor.advisor	โกวิท วัชรินทรางกูร	en_US
dc.contributor.advisor	พัชนี กุลฑานันท์	en_US
dc.contributor.author	มณีรัตน์, วงศ์ศรี
dc.date.accessioned	2017-09-16T08:01:37Z
dc.date.available	2017-09-16T08:01:37Z
dc.date.issued	2556
dc.identifier.uri	http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/2052
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย 1)เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนบ้านหนองหัวช้าง กลุ่มลำปลายมาศ 6 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ที่กำลังเรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2555 จำนวน 16 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 16 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 3 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจ เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scales) 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD ที่นำไปใช้กับนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 80.11/85 ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมเรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา โดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. ดัชนีประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเยนรู้แบบร่วมมือทางเทคนิค STAD มีค่าเท่ากับ 0.7983 แสดงว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7983 หรือคิดเป็นร้อยละ 79.83 4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อการเรียนชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยการเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยรวมอยู่ในระดับมากสุด	en_US
dc.language.iso	th_TH	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์	en_US
dc.title	การพัฒนาชุดกิจกรรม เรื่องหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาโดยใช้การเรียนรู้แบบร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2	en_US
dc.title.alternative	The Development of Activity Packages Entitled the principles of buddhism Using Cooperative Learning STAD Technique for Prathonsuksa 2 Students	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.discipline	หลักสูตรและการสอน
dc.degree.level	ปริญญาโท
dc.degree.name	ครุศาสตรมหาบัณฑิต