การดำเนินงานการเงินของครูผู้ปฏิบัติงานการเงินในสถานศึกษาช่วงชั้นที่ 1-3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาการดำเนินการเงินของครูผู้ปฏิบัติงานการเงิน ในสถานศึกษาช่วงชั้นที่ 1 – 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ตามขนาสถานศึกษา และประสบการณ์การปฏิบัติงานการเงินในสถานศึกษา ตามขอบข่ายงานการเงินสถานศึกษา 4 ด้าน คือ 1) ด้านการรับเงิน 2) ด้านการเบิกจ่ายเงิน 3) ด้านการเก็บรักษาเงิน และ 4) ด้านการจัดทำบัญชีประชากร คือ ครูผู้ปฏิบัติหน้าที่งานการเงินในสถานศึกษาช่วงชั้นที่ 1 – 3 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 จำนวน 194 คน กลุ่มตัวอย่างได้จากกลุ่มประชากร โดยกำหนดขนาด ของกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของ R.V.Krejcie และ D.W.Morgan ที่ระดับความเชื่อมั่น 95.5% และระดับความคลาดเคลื่อน 5% ได้ขนาดกลุ่มตัวอย่าง 165 คน และจำแนกเป็นครูผู้ปฏิบัติ หน้าที่งานการเงินในสถานศึกษาขนาดเล็ก จำนวน 57 คน สถานศึกษาขนาดกลาง จำนวน 74 คน และสถานศึกษาขนาดใหญ่ จำนวน 34 คน ทำการสุ่มด้วยวิธีสุ่มแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บ รวบรวมข้อมูล เป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะคือ แบบสำรวจรายการ (Check List) แบบมาตรา ส่วนประมาณค่า (Rating Scale) และแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ยค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One – Way Anaylsis of Variance) และเมื่อพบความแตกต่างจึงทำการเปรียบเทียบรายคู่ในแต่ละด้านตามวิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’s Method) กำหนดค้าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ครูผู้ปฏิบัติงานการเงินในสถานศึกษาช่วงชั้นที่ 1 – 3 มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหา การปฏิบัติงานการเงิน โดยรวม อยู่ในระดับน้อย เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการเบิกจ่ายเงินด้านการรับเงิน และด้านการเก็บรักษาเงิน มีสภาพปัญหาอยู่ในระดับน้อย ส่วนด้านการจัดทำบัญชีมีสภาพปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง โดยเรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงไปหาต่ำคือ ด้านการจัดทำ บัญชี ด้านการเบิกจ่ายเงิน ด้านการรับเงิน และด้านการเก็บรักษาเงิน 2. ครูผู้ปฏิบัติงานการเงินในสถานศึกษาช่วงชั้นที่ 1 -3 ที่ขนาดสถานศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาการปฏิบัติงานการเงิน โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า ด้านการรับเงิน และด้านการเบิกจ่ายเงิน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการเก็บรักษาเงิน และด้านการจัดทำบัญชี ไม่แตกต่างกัน 3. ครูผู้ปฏิบัติงานการเงินในสถานศึกษาช่วงชั้นที่ 1 – 3 ที่มีประสบการณ์การปฏิบัติงาน การเงินในสถานศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาการปฏิบัติงานการเงิน ทั้งโดยรวม และรายด้านไม่แตกต่างกัน