dc.contributor.advisor |
พรพิมล พงศ์สุวรรณ |
en_US |
dc.contributor.advisor |
กิ่งแก้ว ปะติตังโข |
en_US |
dc.contributor.advisor |
สุนันทา วีรกุลเทวัญ |
en_US |
dc.contributor.author |
ประภัสสร, สรวนรัมย์ |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-16T06:21:06Z |
|
dc.date.available |
2017-09-16T06:21:06Z |
|
dc.date.issued |
2554 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1852 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้ มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพและปัญหาการดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กพิเศษตามโครงสร้างซีท ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนเด็กพิเศษในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นฐานที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 และเพื่อเปรียบเทียบปัญหาการดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กพิเศษตามโครงสร้างซีทของผู้บริหารสถานศึกษา และครูผู้สอนเด็กพิเศษ จำแนกตามตำแหน่งเพศ ระดับการศึกษาประสบการณ์ และขนาดโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ ผู้บริหารสถานศึกษา 170 ครูผู้สอน เด็กพิเศษ 170 คน รวมทั้งสิ้น 340 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบน มาตรฐาน และการทดสอบค่า T ผลการวิจัย พบว่า 1.สถานภาพการดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กพิเศษตามโครงสร้างซีทในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 โดยภาพรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยคือ ด้านนักเรียน ด้านเครื่องมือ ด้านสภาพแวดล้อม และด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 2. ปัญหาการดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กพิเศษตามโครางสร้างซีทในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 โดยภาพรวมและการรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง เรียงลำดับจากมากไปหาน้อยคือ ด้านนักเรียน ด้านกิจกรรม การเรียนการสอน ด้านเครื่องมือ และด้านสภาพแวดล้อม 3. ผลการเปรียบเทียบปัญหาการดำเนินงานจัดการเรียนส่วนสำหรับเด็กพิเศษตามโครงสร้างซีท ในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอนเด็กพิเศษ จำแนกตามตำแหน่ง เพศระดับการศึกษา ประสบการณ์ และขนาดโรงเรียน พบว่าปัญหาการดำเนินงานจัดการเรียนร่วมสำหรับเด็กพิเศษตามโครงสร้างซีทด้านสภาพแวดล้อม ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านเครื่องมือ แตกต่างกันอย่างนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ยกเว้นด้านนักเรียนไม่มีความแตกต่างกัน ข้อเสนอแนะ 1.)ด้านนักเรียน ควรมีการเตรียมความพร้อมนักเรียนพิเศษ และนักเรียนทั่วไปโดยนักเรียนพิเศษควรตรวจวัดความพร้อมทางด้านการเรียน สังคมและร่างกาย โดยให้นักเรียนรู้จักสถานที่ การใช้บริการ 2.) ด้านสภาพแวดล้อม โรงเรียนต้องจัดสรรงบประมาณเพื่อปรับสภาพแวดล้อมทางกายภาพโดยคำนึงถึงสภาพความบกพร่องของนักเรียนทั้งสภาพแวดล้อมภายนอกห้องเรียนและในห้องเรียน ควรประชุมทำความเข้าใจกับบุคลากรที่เกี่ยวข้องในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษา ควรให้ผู้ปกครองของเด็กพิเศษ และเด็กปกติอาสาเป็นวิทยากรหรือมาร่วมกิจกรรมอนุบาลเด็กพิเศษ 3.) ด้านกิจจกรมการเรียนการสอน โรงเรียนควรมีการเตรียมการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล โดยมีการแต่งตั้งคณะบุคคลหลาย ๆ ฝ่ายมาร่วมในการจัดทำมีการทบทวนปรับแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ให้เหมาะสมกับนักเรียนพิเศษแต่ละบุคคล 4.) ด้านเครื่องมือ โรงเรียนควรมีการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย วิสัยทัศน์ และพันธกิจ อย่างชัดเจน มีแผนงานโครงสร้างให้บุคลากรที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมสนับสนุนและดำเนินงานด้านการเรียนร่วม สถานศึกษาควรมีบุคลากรที่จบด้านการศึกษาพิเศษ หรือต้องได้รับการอบรม ศึกษาดูงานเพื่อดูแลช่วยเหลือในด้านการจัด การเรียนการสอน การฝึกทักษะ เฉพาะด้าน การฝึกกิจกรรมบำบัด |
en_US |
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.title |
สภาพและปัญหาการดำเนินงานจัดการการเรียนร่วมสำหรับเด็กพิเศษตามโคงการชีท (SEAT Framework) ในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 |
en_US |
dc.title.alternative |
STATES AND PROBLEMS OF SPECIAL EDUCATION EMERSION ACCORDING TO THE SEAT FRAMEWORK IN SCHOOLS UNDER BURIRAM PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 2 |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |
dc.degree.discipline |
การบริหารการศึกษา |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.name |
ครุศาสตรมหาบัณฑิต |
|