การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องวัสดุรอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

ณิชกมล, อุทัยดา

dc.contributor.advisor	สุเทียบ ละอองทอง	en_US
dc.contributor.advisor	สมหมาย ปะติตังโข	en_US
dc.contributor.advisor	กระพัน ศรีงาน	en_US
dc.contributor.advisor	สุรชัย ปิยานุกูล	en_US
dc.contributor.advisor	เผ่าพงษ์พัฒน์ บุญกะนันท์	en_US
dc.contributor.author	ณิชกมล, อุทัยดา
dc.date.accessioned	2017-09-16T04:26:39Z
dc.date.available	2017-09-16T04:26:39Z
dc.date.issued	2556
dc.identifier.uri	http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1661
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องวัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแผนกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3/1 โรงเรียนอนุบาลบ้านสะเดา อำเภอพลับพลาชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์เขต 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 22 คน ได้มาจาก วิธีการสุ่มอย่างง่าย ( Simple Random Sampling ) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยแบบสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 จำนวน 5 แผน 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบปรนัยเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากอยู่ระหว่าง0.41 -0.77 มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.27 -0.77 และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.81 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแผนการจัดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ประสิทธิภาพของแผนการจัดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นปฐมศึกษาปีที่3 มีประสิทธิภาพ89.62/86.96 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้80/80 2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. ดัชนีประสิทธิผลของการเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 มีค่าเท่ากับ 0.5924 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.5924 หรือคิดเป็นร้อยละ 59.24 4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่อง วัสดุรอบตัวเรา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่3 โดยรวมเท่ากับ 4.95 ซึ่งอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด	en_US
dc.language.iso	th_TH	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์	en_US
dc.title	การพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เรื่องวัสดุรอบตัวเราสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3	en_US
dc.title.alternative	Development of Learning Activity Lesson Plans Entitled	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.discipline	หลักสูตรและการสอน
dc.degree.level	ปริญญาโท
dc.degree.name	ครุศาสตรมหาบัณฑิต