dc.contributor.advisor | โกวิท เชื่อมกลาง | en_US |
dc.contributor.advisor | มาลิณี จุโฑปะมา | en_US |
dc.contributor.advisor | พรพิมล พงศ์สุวรรณ | en_US |
dc.contributor.author | ประกอบ, โพธิ์ราม | |
dc.date.accessioned | 2017-09-16T04:16:13Z | |
dc.date.available | 2017-09-16T04:16:13Z | |
dc.date.issued | 2554 | |
dc.identifier.uri | http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1625 | |
dc.description.abstract | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 และเพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอน จำแนกตามตำแหน่ง วุฒิการศึกษา และประสบการณ์ในการทำงาน กลุ่มประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างจากการคำนวณสูตรยามาเน่ แล้วจึงแบ่งการสุ่มตัวอย่างตามระดับชั้น จากนั้นใช้วิธีการสุ่มแบบง่ายได้กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้บริหารและครูผู้สอน จำนวน 345 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ 0.9546 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตราฐาน และทดสอบสมมติบาน โดยใช้ One Sample t-test และ Independent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. ผู้บริหารและครูผู้สอน มีความคิดเห็นต่อสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีสภาพการปฎิบัติอยู่ในระดับมาก โดยมีสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ในแต่ละด้านเรียงจากมากไปหาน้อย ดังนี้ ด้านการแปรรูปองค์กร (ค่าเฉลี่ย = 3.17) ด้านพลวัตการเรียนรู้การปฎิบัติงานและด้านการให้อำนาจ (ค่าเฉลี่ย = 3.04) ด้านการจัดการความรู้ (ค่าเฉลี่ย = 3.03) และด้านการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (ค่าเฉลี่ย = 2.92) ตามลำดับ 2. เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ที่มีต่อสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า แตกต่างกัน 4 ด้าน คือ ด้านพลวัตการเรียนรู้การปฎิบัติงาน ด้านการแปรรูปองค์กร ด้านการให้อำนาจและด้านการจัดการความรู้ โดยมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนด้านการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ไม่แตกต่างกัน 3. เปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนในสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ที่มีต่อสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้จำแนกตามวุฒิการศึกษา โดยรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า มีความแตกต่างกันระดับ .05 คือ ด้านการให้อำนาจ ส่วนด้านประสบการณ์ในการทำงาน โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน 4.ข้อเสนอแนะของผู้บริหารและครูเกี่ยวสภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ในด้านการจัดการความรู้ และด้านพลวัตความรู้ ปัญหา คือ การจัดอบรมให้บุคลากรในสถานศึกษาให้ความรู้ความเข้าใจในการจัดการความรู้และการส่งเสริมให้บุคลากรในสถานศึกษานำความรู้ใหม่ๆ มาใช้จัดการเรียนการสอน ควรจัดกระบวนการในการจัดการความรู้ให้เป็นระบบอย่างต่อเนื่องเพื่อนำความรู้และนวัตกรรมใหม่มาใช้ในสถานศึกษาหรือใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้มีคุณภาพ | en_US |
dc.language.iso | th_TH | en_US |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ | en_US |
dc.title | สภาพการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 | en_US |
dc.title.alternative | The Status as Learning Organization of Schools Under Educational Service Area Office 4 | en_US |
dc.type | Thesis | en_US |
dc.degree.discipline | การบริหารการศึกษา | |
dc.degree.level | ปริญญาโท | |
dc.degree.name | ครุศาสตรมหาบัณฑิต |