dc.contributor.advisor |
นิจพร ณ พัทลุง |
en_US |
dc.contributor.advisor |
ศิราณี จุโฑปะมา |
en_US |
dc.contributor.author |
โกศล, ประสงค์สุข |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-15T04:21:07Z |
|
dc.date.available |
2017-09-15T04:21:07Z |
|
dc.date.issued |
2559 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1392 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบ ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตาม สถานภาพตำแหน่ง และขนาดของโรงเรียน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้บริหาร และครูวิชาการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ปีการศึกษา 2558 โดยแยกเป็น ผู้บริหาร จำนวน 140 คน และครูวิชาการ จำนวน 140 คน รวมทั้งสิ้นจำนวน 280 คน โดยกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามตารางสำเร็จรูปของเครจซี่และมอร์แกน แล้วใช้วิธีสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ ได้แก่ แบบตรวจสอบรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ และแบบปลายเปิดมีค่าความเชื่อมัน0.920 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบสมมุติฐานโดยใช้การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว เมื่อพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ในแต่ละด้านจะทำการเปรียบเทียบเป็นรายคู่โดยวิธีการของเชฟเฟ่ โดยกำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1.ผู้บริหารและครูวิชาการมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขตสาม โดยรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับมากทุกด้าน โดยด้านมีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือด้านการวัดผล ประเมินผล รองลงมาคือ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวิจัย ด้านการนิเทศและการแนะแนวการศึกษา และด้านการพัฒนาสื่อนวัตกรรมและแหล่งเรียนรู้ ตามลำดับ 2.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขตสามจำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการ โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวิจัย ด้านการวัดผล ประเมินผล และด้านการพัฒนาสื่อ นวัตกรรม และแหล่งเรียนรู้แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ที่ระดับ .05 ส่วนด้านอื่นๆไม่แตกต่างกัน 3.การเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารและครูวิชาการเกี่ยวกับสภาพการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 จำแนกตามขนาดของโรงเรียน พบว่า โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีในสำคัญทางสถิติที่ที่ระดับ .05 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านแตกต่างกันอย่างมีในสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05 เช่นเดียวกัน 4.ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของผู้บริหารและวิชาการเกี่ยวกับสถานภาพการบไปริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 ที่มีจำนวนมากที่สุดในแต่ละด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา คือ ควรมีการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตรให้สมบูรณ์ตรงตามบริบทของสถานศึกษา และทันโลกปัจจุบันด้านการพัฒนากระบวนการเรียนรู้และการวิจัย คือ ควรส่งเสริมให้ครูจัดทำวิจัยในชั้นเรียน ด้านการวัดผล ประเมินผล คือ สมควรส่งเสริมให้ครูมีการวัดผลประเมินผลตามสภาพจริงด้วยวิธีการที่หลากหลายด้านการพัฒนาสื่อนวัตกรรม และแหล่งเรียนรู้ คือควรส่งเสริม สนับสนุนให้ครูใช้สื่อ นวัตกรรมและแหล่งเรียนรู้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านการนิเทศและการแนะแนวการศึกษา คือ ควรมีการนิเทศภายนอย่างต่อเนื่อง และเป็นระบบ |
en_US |
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.title |
สภาพการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 |
en_US |
dc.title.alternative |
STATE OF ACADEMIC ADMINISTRATION OF SCHOOL ADMINISTRATORS UNDER BURIRAM PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE3 |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |
dc.degree.discipline |
การบริหารการศึกษา |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.name |
ครุศาสตรมหาบัณฑิต |
|