dc.contributor.advisor |
สงวน ทรงวิวัฒน์ |
en_US |
dc.contributor.advisor |
มาลิณี จุโฑปะมา |
en_US |
dc.contributor.advisor |
สมศักดิ์ เทศสวัสิ์วงศ์ |
en_US |
dc.contributor.author |
เกศวรรณ, พลเดช |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-15T04:00:02Z |
|
dc.date.available |
2017-09-15T04:00:02Z |
|
dc.date.issued |
2551 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1387 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพกจริงและสภาพที่คาดหวังในการสร้างแรงจูงใจให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 ของผู้บริหารสถานศึกษาและครูในกรอบการสร้างแรงจูงใจจากสองปัจจัยได้แก่ ปัจจัยกระตุ้นและปัจจัยค้ำจุน โดยจำแนกตามสภาพตำแหน่งและวุฒิการศึกษา กลุ่มตัวอย่างซึ่งเป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีจำนวน 370 คน ได้จากการสุ่มจากประชากร ที่มีอยู่จำนวน 3,112 คน โดยการกำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามคารางเครจซี่และมอร์แกน (Krejcie & Morgan) และทำการสุ่มตามระดับชั้นอย่างมีสัดส่วน (Proportional Stratified Random Sampling) เครื่องมือเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า มีค่าความเชื่อมั่น 0.95 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานใช้ t-test แบบ Independent กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยพบว่า 1. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความคิดเห็นต่อสภาพจริง โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง ปัจจัยกระตุ้น ด้านการได้รับความยอมรับนับถือ มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด ในส่วนปัจจัยค้ำจุนด้านรายได้มีค่าคะแนนเฉลี่ยสูงสุด 2. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความคิดเห็นต่อสภาพที่คาดหวังโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ในส่วนปัจจัยกระตุ้น ด้านความก้าวหน้าในตำแหน่งการงาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุดในส่วนปัจจัยค้ำจุน ด้านสภาพแวดล้อมของงานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด 3. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาเกี่ยวกับสภาพจริงและสภาพที่คาดหวังของผู้บริหารสถานศึกษาที่มีวุฒิการศึกษาต่างกันมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียน ปัจจัยกระตุ้นโดยรวมและรายด้านมีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน ยกเว้นด้านลักษณะของงานมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ในส่วนปัจจัยค้ำจุนโดยรวมและรายด้านมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สำหรับสภาพที่คาดหวังทั้งปัจจัยกระตุ้นและปัจจัยค้ำจุนโดยรวมและรายด้าน มีความคิดเห็นไม่แตกต่างกัน 4. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูเกี่ยวกับสภาจริงและสภาพที่คาดหวังของครูที่มีวุฒิการศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการสร้างแรงจูงใจให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียนทั้งปัจจัยกระตุ้นและปัจจัยค้ำจุน โดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน สำหรับสภาพจริง ปัจจัยกระตุ้นด้านความก้าวหน้าในตำแห่งการงานมีความคิดเห็นแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 5. ผู้บริหารสถานศึกษาและครูมีความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเกี่ยวกับสภาพจริงและสภาพที่คาดหวังในการสร้างแรงจูงใจให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียน ได้แก่ 1) ควรส่งเสริมให้ครูทำการวิจัย เพื่อพัฒนาการเรียนการสอน โดยเน้นให้เด็กอ่านคล่องเขียนคล่อง คิดเป็นและแก้ปัญหาได้ 2) ควรจัดสรรงบประมาณสนับสนุน ส่งเสริมให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียน เป็นการจัดสรรพงประมาณให้เหมือนกับงบประมาณปกติและจัดสรรให้ต่อเนื่อง เหมือนงบประมาณทั่วไป 3) ควรส่งเสริมการประชุมอบรมสัมมนาให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในการวิจัยในชั้นเรียนอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรม 4) สนับสนุนส่งเสริมให้ครูทำวิจัยในด้านคุณธรรม จริยธรรม ระเบียบวินัยและพัฒนาการของเด็กทุก ๆ ด้านและนำผลการวิจัยมาพัฒนาการเรียนการสอน 5) ควรส่งเสริมสนับสนุน และให้ความสำคัญของการทำวิจัยของครู |
en_US |
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.title |
สภาพจริงและสภาพที่คาดหวังในการสร้างแรงจูงใจให้ครูทำวิจัยในชั้นเรียนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 1 |
en_US |
dc.title.alternative |
The Occurring State and Expected State in Construction Motive for Teachers to do Classroom Research in Schools Uner Buriram Educational Service Area Office 1 |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |
dc.degree.discipline |
การบริหารการศึกษา |
|
dc.degree.level |
ปริญญาโท |
|
dc.degree.name |
ครุศาสตรมหาบัณฑิต |
|