dc.contributor.advisor |
อัญชลี โพธิ์ทอง |
en_US |
dc.contributor.author |
กัญญาภรณ์, นุชวงษ์ |
|
dc.date.accessioned |
2017-09-15T03:39:06Z |
|
dc.date.available |
2017-09-15T03:39:06Z |
|
dc.date.issued |
2559 |
|
dc.identifier.uri |
http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1384 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษากระบวนการบริหารการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียนในโรงเรียนประโคนชัยวิทยา สังกัดสำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดบุรีรัมย์ และเพื่อเปรียบเทียบกระบวนการการบริหารการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของโรงเรียนประโคนชัยวิทยา กับเกณฑ์มาตรฐานที่ 18 ของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา(สมศ.) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้คือ ผู้บริหารจำนวน3คน คูผู้สอนวิทยาศาสตร์ จำนวน16คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 5คนและผู้ปรกครองจำนวน 18คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบสอบถามสัมภาษณ์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมาเอง เป็นแบบสัมภาษณ์ที่ไม่มีโครงสร้างและแบสัมภาษณ์ที่มีโครงสร้าง สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าร้อยละ
ผลการวิจัยสรุปได้ว่า
กระบวนการบริหารการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนประถมศึกษานั้นผู้บริหารเป็นผู้ที่มีความสำคัญมากในการที่จะบิหารจัดการ ให้การเรียนการสอนนั้นประสบผลสำเร็จตามหลักสูตร คือต้องเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ มีความรู้ ความสามารถ ในเรื่องการบริหารการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ สามารถพัฒนาครูผู้สอนให้จัดกิจกรรมต่างๆได้โดยใช้วิธีสอนที่หลากหลายสนองความต้องการของผู้เรียนและชุมชน ตลอดจนใช้แหล่งเรียนรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า
ผลจากการเปรียบเทียบความคิดเห็นต่อกระบวนการการบริหารการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ของ ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในโรงเรียนประโคนชัยวิทยา กับเกณฑ์มาตรฐานที่18 ของสำนักงานรับรองมาตรฐานการศึกษา สรุปได้ดังนี้
การบริหารของโรงเรียนที่อยู่ในระดับ “พอใช้” ที่ควรได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น ดังนี้
1. การจัดกิจกรรมมีความหลากหลาย เหมาะสมกับธรรมชาติและความต้องการของนักเรียน
2. การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการ คิด วิเคราะห์ สังเคราะห์คิดริเริ่มสร้างสรรค์คิดแก้ไขปัญหาและตัดสินใจ
3. การประเมินพัฒนาการของผู้เรียนด้วยวิธีที่หลากหลายและต่อเนื่องการบริหารของโรงเรียนอยู่ในระดับ “ดี”มีดังนี้
1.การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนกระตุ้นให้ผู้เรียนรู้จักศึกษาหาความรู้ แสวงหาคำตอบและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง
2.การนำภูมิปัญญาท้องถิ่น เทคโนโลยีและสื่อที่เหมาะสมมาประยุกต์ใช้ใน การจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
3.การจัดกิจกรรมเพื่อฝึกฝนและส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรมของผู้เรียน
4 .การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้นักเรียนได้พัฒนาสุนทรียภาพอย่างครบถ้วนทั้งด้านานดนตรีศิลปะและการกีฬา
5.การส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตย การทำงานร่วมกับผู้อื่น
6.การจัดกิจกรรมที่ส่งเริมผู้เรียน ให้รักสถานศึกษาของตนและมีความกระตือรือล้นในการเรียน |
|
dc.language.iso |
th_TH |
en_US |
dc.publisher |
มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ |
en_US |
dc.subject |
แนวโน้มวัฒนธรรมองค์การของสถานศึกษาระดับประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง |
en_US |
dc.title |
แนวโน้มวัฒนธรรมองค์การของสถานศึกษาระดับประถมศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง |
en_US |
dc.title.alternative |
Trends of organizational culture in primary schools under the jurisdiction of the basic education commission in the lower northeastern region |
en_US |
dc.type |
Thesis |
en_US |
dc.degree.discipline |
การบริหารการศึกษา |
|
dc.degree.level |
ปริญญาเอก |
|
dc.degree.name |
ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต |
|