การปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครูของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 3

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมาย เพื่อศึกษาการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครูของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 และเพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครูของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์เขต 3 จำแนกตามอายุ ระดับช่วงชั้นที่สอน ประสบการณ์ในการทำงานและวิชาที่สอน กลุ่มตัวอย่างได้จากการสุ่มจากประชากรครู โดยการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างตามตารางเครจซีและมอร์แกน (krejcie & morgan) ได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างจำนวน 351 คน แล้วทำการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบหลายขั้นตอน (Multi-stage Random Sampling) โดยสุ่มจำนวนโรงเรียนในแต่ละอำเภอ (Cluter) มาร้อยละ 70 ด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่ายแล้วทำการสุ่มครูในแต่ละโรงเรียนให้กระจายตามสัดส่วนด้วยวิธีการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม มี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจสอบรายการ (Check List) แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ และแบบคำถามปลายเปิด (Open Form) แบบสอบถามมีอำนาจการจำแนกตั้งแต่2.103 ถึง 5.367 และ มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ .9662 สถิติที่ใช้ในการวิจัยข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบสมมติฐานใช้ Independent Sample t-test และการวิเคราะห์ความแปรปรวนแบบทางเดียว (One-way Analysis of Variance) ในการเปรียบเทียบรายคู่ในแต่ละด้าน ใช้วิธีของเชฟเฟ่ (Scheffe’ Method) โดยกำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ .05 ผลการวิจัยว่า 1.การปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครูของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ทุกด้านอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยสูงไปหาค่าเฉลี่ยต่ำดังนี้ ด้านการจัดการเรียนรู้ ด้านการวัดผลและประเมินผลการศึกษา ด้านการพัฒนาหลักสูตร ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา และด้านวิจัยทางการศึกษา 2.ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครูของครูในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 3 เมื่อจำแนกตามวิชาที่สอน พบว่า มีความคิดเห็นต่อการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครูไม่แตกต่างกัน และเมื่อจำแนกตามอายุ ระดับช่วงชั้นที่สอนและประสบการณ์ในการทำงาน มีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.01 3.ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเพิ่มเติมต่อการปฏิบัติตามมาตรฐานวิชาชีพครู พบว่า หลักสูตรมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงจึงขาดการต่อเนื่องในการพัฒนา ขาดการสนับสนุนด้านสื่อ อุปกรณ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ ครูส่วนใหญ่ยังไม่สามารถนำผลงานการวิจัยทางการศึกษามาพัฒนาได้อย่างแท้จริง ขาดงบประมาณในการจัดหา ICT ที่ทันสมัยต้องการอบรมการทำหลักสูตรสถานศึกษาให้เข้าใจเนื้อหาของหลักสูตร ต้องการเน้นการจัดการเรียนรู้นักเรียนให้เต็มเวลา เต็มหลักสูตร ด้วยวิธีการสอนแบบเน้นทักษะ ต้องการให้มีการอบรมการทำวิจัยที่ถูกต้องและนำไปแก้ไขอย่างถูกวี ต้องการจัดอบรมวิธีการประเมินผลรูปแบบต่างๆ ต้องการให้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษาที่มีอยู่นำมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด "