ผลการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสำฤทธิ์ทางการอ่านออกเสียงของนักเรียน ก่อนและหลังการสอนโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียนอรัญประเทศ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 7 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2553 จำนวน 39 คน ได้มาโดยเลือกสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วย 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 6 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านออกเสียง จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยใช้ E1/E2 และ E.I. และทดสอบสมมติฐานโดยใช้Dependent Samples t-test ผลการวิจัยพบว่า 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 82.65/88.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ที่ 80/80 2. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนการเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 3. นักเรียนที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.81 แสดงว่ามีร้อยละความก้าวหน้าของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเท่ากับร้อยละ 81 4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมากที่สุด The objectives of this research were 1) to study the efficiency of the computer assisted instruction for developing the reading aloud skill for Matthayomsuksa l students to meet the criteria set at 80/80, 2 )to compare the learning achievement before and after learning by using the computer assisted instruction for developing the reading aloud skill for Mattayomsuksa 1 students, 3) to explore the effectiveness index of the computer assisted instruction for developing the reading aloud skill for Mattayomsuksa 1 students, 4)to investigate the students’ satisfaction to wards the computer assisted for developing the reading aloud skill for Mattayomsuksa 1 students. The samples were 39 Mattayomsuksa 1 students studying in the second semester of academic year 2010 at Aranyaprathet School in Aranyaprathet District, Sakaew Province under secondary Educational Service Area Office 7, selected by simple random sampling technique. The research instruments were 1) 6 sets of the computer assisted instruction ,2 )6 lesson plans, 3) 39-item of reading aloud achievement test, and 4) a 15- item of satisfaction questionnaire. The statistics used for analyzing the collected data were percentage, mean, standard deviation, E1/E2, and E.I. The hypothesis was tested by using dependent samples t-test. The findings were as follows: 1.The computer assisted instruction for developing the reading aloud skill for Matthayomsuksa l students had an efficiency of 82.65/88.97 which was higher than the criteria set at 80/80. 2. Mattayomsuksa 1 students who learned by computer assisted instruction for developing the reading aloud skill after earning had higher achievement than before learning at the .01 level of statistical significance. 3.the effectiveness index of the computer assisted instruction for developing the reading aloud skill equaled0.81 which means 81% students gain more reading aloud skill knowledge. 4. Mattayomsuksa 1 students were satisfied the computer assisted instruction for developing the reading aloud skill at highest levels.