การมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนสตึก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32

Abstract

การวิจัยครั้งมีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารการศึกษาของโรงสตึก สังกัดสำนักงานเจตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ภายใต้ขอบข่ายการบริหารงานของสถานศึกษา 4 ด้าน คือ ด้านการบริหารวิชาการ ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล และด้านการบริหารงานทั่วไป กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้นำชุมชน เครือข่ายผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน รวม 369 คน เครื่องที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง ซึ่งมี 3 ลักษณะ คือ แบบตรวจรายการ แบบมาตราส่วนประมาณค่าและแบบสอบถามปลายเปิด แบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.9507 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน t – tset และ F – test และ ทดสอบผลต่างค่าเฉลี่ยรายคู่ด้วยวิธีการเซฟเฟ่ (Schaffe’) ผลการวิจัย พบว่า 1.ผู้นำชุมชน เครือข่ายผู้ปกครอง และคณะกรรมการศถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีส่วนร่วมในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนสตึก สังกัดสำนักงานเจตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก เรียงค่าลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการบริหารบุคคล ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารวิชาการ และด้านการบริหารงานทั่วไป 2.ผลการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของชุนชมในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนสตึก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 32 ของเครือข่ายผู้ปกครอง จำแนกตามเพศ อายุ และอาชีพมีความคิดเห็นโดยร่วมไม่แตกต่างกัน 3.ข้อเสนอแนะแนวทางการพัฒนาการมีส่วนร่วมของชุมชนในการบริหารการศึกษาของโรงเรียนสตึกจากการสัมภาษณ์ คือ 1) ด้านการบริหารวิชาการ ควรนำเทคโนโลยีเข้ามามีส่วนในการใช้เป็นสื่อการสอน โดยคูรจะต้องมีความรู้และความชำนาญในการใช้สื่อดังกล่าว 2.)ด้านการบริหารงานงบประมาณ คือ ควรมีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับ ติดตาม ตรวจสอบ ควรสรุปและรายงานผลด้านงบประมาณให้มากขึ้น 3) ด้านการบรืหารงานบุคคล ควรจัดประชุมเครือข่ายผู้ปกครองนัเรียนให้มากขึ้นเพื่อร่วมกันแก้ไขปัญต่างๆ เช่น อินเตอร์ หอกระจายข่าวสาร ป้ายประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้ชุมชนได้รับทราบ