การสังเคราะห์วิทยานิพนธ์ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง พ.ศ.2549-25

Abstract

การสังเคราะห์วิทยานิพนธ์ หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหารการศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระหว่าง พ.ศ. 2549-2553 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพทั่วไปของวิทยานิพนธ์ และสังเคราะห์ข้อสรุปผลการวิจัยแยกตามประเด็นการวิจัยได้แก่ การบริหารงานวิชาการ การบริหารงานบุคคล งานบริหารงานงบประมาณ การบริหารงานทั่วไป และการปฏิรูปการเรียนการสอน โดยทำการสังเคราะห์วิทยานิพนธ์ จำนวน 285 เล่ม ใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย ผลการสังเคราะห์พบว่า วิทยานิพนธ์ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาวิจัย ระหว่างปี พ.ศ.2549-2553 รูปแบบการวิจัยที่ใช้ ส่วนใหญ่เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ เป็นการสึกษาเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการมากที่สุด พื้นที่ ที่ทำการศึกษาเก็บข้อมูลส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดอุบลราชธานี ประชากรหรือกลุ่มตัวอย่างที่ใช้มากที่สุด คือ ครู อาจาย์ วิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่ใช้วิธีการเลือกสุ่มแบบง่ายชนิดของเครื่องมือที่ใช้มากที่สุด คือ แบบสอบถาม สถิติพื้นฐาน ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลส่วนมาก คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนสถิติที่ใช้ในการทดสอบสมมติฐานใช้มากที่สุดคือ t-test ผลการวิจัยสามารถจำแนกตามประเด็นที่วิจัยได้ ดังนี้ 1.วิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการบริหารงานวิชาการ เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ การนิเทศการดำเนินการวางเผนปฏิบัติงาน งานหลักสูตรสถานศึกษา งานสารสนเทศ การประเมินโครงการพบว่า สว่นใหญ่เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ ความคิดเห็น สถานศึกษาส่วนใหย่มีการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาและมีการพัมนาหลักสูตรท้องถิ่น อยู่ในระดับปานกลาง เพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่จะนำมาสอนนักเรียนประชากรที่ใช้ในการวิจัย คือ ผู้บรืหาร ครูและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือแบบสอบถาม แบบสังเกต 2.วิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล เป็นการศึกษาเกี่ยวกับ การบริหารงานบุคลากร และการพัฒนาบุคลากร ขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ความต้องการในการพัฒนาตนเอง ระเบียบวินัยจรรยาบรรณวิชาชีพ ส่วนใหญ่เป็นการศึกษาเกี่ยวยกับความคิดเห็น และการปฏิบัติของสถานศึกษา พบว่า การบริหารสถานศึกษาและการปฏิบัติงานในสถานศึกษา อยู่ในระดับปานกลางถึงระดับมาก แต่เมื่อศึกษาถึงปัญหาขององค์กร มีปัญหาอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้องค์กรจะมีสภาพการบริหารและการปฏิบัติงานที่ดี แต่ยังมีปัญหา โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม ประชากรที่ใช้ในการวิจัยส่วนใหญ่เป็นผู้บริหาร และครู อาจารย์ 3.วิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการบริหารงานงบประมาณการศ฿กษาเกี่ยวกับ การเงิน บัญชี และพัสดุ การประเมินโครงการและแผนงานการประกันคุณภาพการศึกษา พบว่า ส่วนใหญ่ จะเป็นการศึกษาจากความคิดเห็นและเปรียบเทียบตามตัวแปร สถานภาพตำแหน่ง เพศ ประสบการณ์ หรือขนาดโรงเรียน ส่วนใหญ่มีการใช้งบประมาณตามแผนและโครงการที่กำหนดไว้ ปัญหาที่พบคือ งบประมาณมีจำนวนจำกัด ประชากรที่ใช้ในการวิจัย จะเป็นผู้บริหารสถานศึกษาครู โดยเครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถาม 4.วิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการบริหารงานทั่วไปเป็นการศึกษาเกีย่วกับ งานธุรการ ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ความพึงพอใจต่อการบริหารงานห้องสมุด กิจการนักรียนความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนกับชุมชน ความพึงพอใจต่อการบริหารงานห้องสมุด กิจการนักเรียน นักศึกษา ผู้ปกครอง การจัดสภาพแวดล้อม สภาพการออกกลางคันของนักเรียน การป้องกันยาเสพติดของนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาจากความคิดเห็น จากผู้บริหาร ครู ผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาข้นพื้นฐาน หรือนักเรียน โดยเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือแบบสอบถาม 5.วิทยานิพนธ์ที่ศึกษาเกี่ยวกับงานอื่นๆเป็นการศึกษาเกี่ยวกับ การปฏิบัติตามนโยบายปฏิรูปการศึกษา ส่วนใหญ่สถานศึกษา มีการดำเนินงานการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ของผู้ปฏิบัติการสอน มีการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติครอบคลุมทุกด้าน การปรับปรุงพัฒนาเด่นชัดขึ้น ครูและบุคลากรมีความกระตือรือร้นและมุ่งความสำเร็จ ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคือ ครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน นักเรียน โดยเครื่องมือที่ใช้ เป็นแบบสอบถาม แบบสังเกต