แนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียนในสหวิทยาเขตกระสังสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32

ศิริพร, เทพราชา

dc.contributor.author	ศิริพร, เทพราชา
dc.date.accessioned	2017-09-06T03:08:17Z
dc.date.available	2017-09-06T03:08:17Z
dc.date.issued	2557
dc.identifier.uri	http://dspace.bru.ac.th/xmlui/handle/123456789/1026
dc.description.abstract	การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาปัญหาในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอน 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอน เกี่ยวกับปัญหาในการทำวิจัยในชั้นเรียน โรงเรียนในสหวิทยาเขตกระสัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง และขนาดของโรงเรียน และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางการส่งเสริมครูผู้สอนในการวิจัยในชั้นเรียน ของโรงเรียนในสหวิทยาเขตกระสัง สังงกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมการศึกษา เขต 32 กลุ่มตัวอย่างที่ศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู ในสหวิทยาเขตกระสัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำนวนทั้งสิ้น 244 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นที่มีความเชื่อมั่น.96 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือความถี่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ Independent Samples t-test และ F-test ทดสอบความแตกต่างรายคู่โดยใช้วิธีการของเชฟเฟ่ กำหนดค่าสถิติที่ระดับนัยสำคัญ 0.5 ผลการวิจัยพบว่า 1. การศึกษาปัญหาในการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูผู้สอนในโรงเรียนสหวิทยาเขตกระสัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 โดยรวมและรายด้านทุกด้านอยู่ระดับปานกลาง 2. ผลการเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอน เกี่ยวกับปัญหาในการทำวิจัยในชั้นเรียนสหวิทยาเขตกระสัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 จำแนกตามสถานภาพตำแหน่ง พบว่าโดยภาพรวมผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหากาดำเนินกาวิจัยในชั้นเรียนไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนไม่แตกต่างทั้ง 4 ด้าน และเมื่อจำแนกตามขนาดของโรงเรียน พบว่าโดยภาพรวมของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหากาดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนไม่แตกต่างกัน 2 ด้าน ได้แก่ ด้านงบประมาณสนับสนุนการทำวิจัย และด้านแหล่งข้อมูลในการทำวิจัย ผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาการดำเนินการวิจัยในชั้นเรียนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3. การศึกษาแนวทางส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของครูในโรงเรียนสหวิทยาเขตกระสัง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่าอยู่ในระดับปานกลางทั้ง 3 ด้าน เรียงลำดับจากมากไปหาน้อย ได้ดังนี้ ด้านบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับงานวิจัย ด้านแหล่งข้อมูลในการ ด้านความรู้เกี่ยวกับงานวิจัย ส่วนด้านงบประมาณการทำวิจัยอยู่ในระดับน้อย	en_US
dc.language.iso	th_TH	en_US
dc.publisher	มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์	en_US
dc.title	แนวทางการส่งเสริมการทำวิจัยในชั้นเรียนของโรงเรียนในสหวิทยาเขตกระสังสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 32	en_US
dc.title.alternative	THE APPROACHES TO PROMOTE THE CLASSROOM ACTION RESEARCH OF THE SCHOOLS IN KRASANG NETWORK UNDER THE SECONDARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 32	en_US
dc.type	Thesis	en_US
dc.degree.name	ปริญญาโท