การใช้สูตรทางสถิติ (ที่ถูกต้อง) ในการกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการวิจัยเชิงปริมาณในทางมนุษยศาสตร์ และสังคมศาสตร์

Abstract

การศึกษาวิจัยเชิงปริมาณ ​(Quantitative​Research) ​นั้นส่วนใหญ่จะเป็นการศึกษาจากตัวอย่าง​(Sample)​ แทนการศึกษาจากประชากร ​(Population)​โดยตรง​ซึ่งตัวอย่างก็จะได้จากประชากรและเป็นกลุ่มเล็กๆ​ในประชากรนั่นเอง​และขนาดของกลุ่มตัวอย่าง ​(Sample​size) ​ที่จะใช้นั้นสามารถคํานวณได้โดยใช้สูตรทางสถิติ ​(Statistical​Formula) ​ที่นักวิชาการได้สร้างขึ้นไว้​แต่ที่สําาคัญที่สุดนักวิจัยควรจะใช้สูตรสถิติที่ถูกต้องในการคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อนํามาทําการศึกษาวิจัย​ กล่าวคือเมื่อจะศึกษาค่าเฉลี่ยประชาก ร(Population​Mean,μ) ​ก็ควรจะใช้สูตรสําหรับคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษาค่าเฉลี่ยประชากร​และเมื่อจะศึกษาสัดส่วนประชากร ​(Population​Proportion,​μ)​ ก็ควรจะใช้สูตรสําหรับคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่าง เพื่อการศึกษาสัดส่วนประชากร​ไม่ควรจะใช้สูตรที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อนไป​เช่นทําการศึกษาค่าเฉลี่ยประชากร​ (ซึ่งจะได้คําตอบเป็นค่าเฉลี่ยหรือ​​และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหรือ​S.D.) ​แต่กลับไปใช้สูตรทางสถิติของยามาเน ​(Yamane) ​หรือของเคร็จซีแอนด์มอร์แกน​ (Krejcie​ and ​Morgan)​ หรือของ​โคแครน ​(Cochran) ​ในส่วนที่เป็นสูตรสําหรับใช้คํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษาสัดส่วนประชากรซึ่งไม่ถูกต้อง​เพราะเป็นกรณีของการศึกษาที่ต่างประเภทกัน​ดังนั้นในการศึกษา จากตัวอย่าง ​(Sample) ​ดังกล่าวมานี้เมื่อศึกษาค่าเฉลี่ยประชากรก็ควรใช้สูตรคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่าง เพื่อการศึกษาค่าเฉลี่ยประชากรโดยเฉพาะ และเมื่อศึกษาสัดส่วนประชากรก็ควรใช้สูตรคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างเพื่อการศึกษาสัดส่วนประชากรโดยเฉพาะ​เพื่อให้ถูกต้องตามประเภทของการศึกษาในครั้งนั้นๆ ​ซึ่งในที่นี้จะได้ขยายความให้ทราบว่าการศึกษาค่าเฉลี่ยประชากรและการศึกษาสัดส่วนประชากรนั้นเป็นอย่างไรและจะต้องใช้สูตรคํานวณขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่แตกต่างกันไปอย่างไรบ้าง