Abstract:
วัตถุประสงค์ของการวิจัยครั้งนี้ คือ 1) เพื่อศึกษาความต้องการใช้ภาษาอังกฤษของบุคลากร สายสนับสนุนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบนวัตกรรมการสื่อสาร ภาษาอังกฤษอย่างมีส่วนร่วมสำหรับบุคลากรสายสนับสนุน และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อรูปแบบนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษสำหรับบุคลากรสายสนับสนุนที่พัฒนาขึ้น ประชากรคือ บุคลากรสายสนับสนุนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ จำนวน 359 คน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย บุคลากรสายสนับสนุน จำนวน 120 คน คัดเลือกกลุ่มตัวอย่างโดยใช้วิธีการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถาม แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม รูปแบบนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษ แบบประเมินนวัตกรรม และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติพรรณนา คือ ค่าร้อยละค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) บุคลากรสายสนับสนุนของมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ต้องการนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษที่เป็นหนังสือเล่มเล็กอยู่ใน ระดับมากที่สุด ด้วยค่าเฉลี่ย 4.59 และตามด้วยซีดีเสียงอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ด้วยค่าเฉลี่ย 4.54 และวีดิโอเทป อยู่ในระดับมาก ด้วยค่าเฉลี่ย3.82 ตามลำดับ 2) กลุ่มตัวอย่างต้องการภาษาอังกฤษตามหน้าที่การงานและความรับผิดชอบของแต่ละคน เช่น การขอความช่วยเหลือ การโทรศัพท์ และการกล่าวขอบคุณและการกล่าวลา เป็นต้น 3) ด้านการประเมินนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษ ผู้เชี่ยวชาญประเมินนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยภาพรวม อยู้ในระดับมาก ด้วยค่าเฉลี่ย 4.34 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านเนื้อหาอยู่ในระดับมาก ด้วยค่าเฉลี่ย 4.38 ตามด้วยด้านซีดีเสียงภาษาอังกฤษอยู่ในระดับมาก ด้วยค่าเฉลี่ย 4.34 และด้านรูปเล่มอยู่ในระดับมากเช่นกัน ด้วยค่าเฉลี่ย 4.25 ตามลำดับ 4) ด้านความพึงพอใจต่อนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษบุคลากรสายสนับสนุนมีความพึงพอใจต่อนวัตกรรมการสื่อสารภาษาอังกฤษโดยภาพรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด ด้วยค่าเฉลี่ย 4.53 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านรูปเล่ม อยู่ในระดับมากที่สุด ด้วยค่าเฉลี่ย 4.62 ตามด้วยด้านเนื้อหาอยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ด้วยค่าเฉลี่ย 4.53 และด้านซีดีเสียงภาษาอังกฤษ อยู่ในระดับมาก ด้วยค่าเฉลี่ย 4.44 ตามลำดับ